อัสนี – วสันต์ โชติกุล
อัสนี โชติกุล (ป้อม)
ASANEE CHOTIKUL
ความสนใจทางดนตรีของอัสนีมีมาตั้งแต่วัยเด็ก เริ่มหัดเล่นกีตาร์ตั้งแต่ประมาณ 10 ขวบ ด้วยกีตาร์โปร่งที่คุณพ่อซื้อมา
พอจบชั้นมัธยม อัสนีเลือกที่จะมาผจญชีวิตในเมือง ซึ่งตอนนั้นวสันต์เข้ามากรุงเทพฯ ก่อนแล้ว สองคนพี่น้องรับเล่นดนตรีตามผับ ร้านอาหารทั่วไป จนกระทั่งมีโอกาสได้ประกวด ในงานชิงแชมป์โฟลค์ซองแห่งประเทศไทย เมื่อปี 2517 หลังจากที่ได้แชมป์ หนทางนักดนตรีมืออาชีพก็เริ่มขึ้น เมื่ออาจารย์วิมล จงวิไล หนึ่งในคณะกรรมการการตัดสินครั้งนั้น ชอบใจฝีมือของสองพี่น้องจึงพาไปอัดเสียง และนี่… คือจุดกำเนิดของวงอิสซึ่น
แนวเพลงของอิสซึ่น เป็นแนวโฟล์ค ร็อค ผลงานที่ถือว่าประสบความสำเร็จ และเป็นที่จดจำคือ ชุดสาวตางาม และสยามสแควร์ บางเพลงของอิสซึ่น ถูกนำมาเรียบเรียง และขับร้องใหม่ เช่น เพลง”หนึ่งมิตรชิดใกล้” ในชุด “ผักชีโรยหน้า” (ปี 2530)
วงอิสซึ่นตระเวณเล่นตามผับ บาร์ อยู่หลายปี และมีเทปออกมาหลายชุด ส่วนใหญ่แนวเพลงที่เล่นเป็นเพลงสากล แนวโฟล์คและโฟล์ค ร็อค ทำให้เขาเริ่มรู้สึกเบื่อ ประจวบกับ ‘เต๋อ’ เรวัต พุทธินันทน์ ชวนให้มาเล่นกับวงดิ โอเรียนเต็ล ฟังค์ ทำให้อัสนีได้รับประสบการณ์ดนตรีอีกรูปแบบหนึ่ง เพราะดิ โอเรียนเต็ล ฟังค์จะเล่นเพลงแนวฟังค์กี้ เต้นรำ
จนวงดิ โอเรียนเต็ล ฟังค์ ยุบวงไป อัสนีจึงหันมาทำงานกับบัตเตอร์ฟลาย ซึ่งเล่นดนตรี ร็อค นอกจากนี้ยังมีงานแต่งเพลงโฆษณา เช่น กรีนสปอต (ชุดที่ผู้หญิงเดินกลาง ทะเลทราย มือถือถาดแล้วมีไฟลุก) และรับเล่นดนตรีแบ็คอัพให้คนอื่น เช่น วงฮ็อทเปปเปอร์ซิงเกอร์ ของ ปราจีน ทรงเผ่า รวมถึงพลิกตัวเอง มารับบทโปรดิวเซอร์ให้กับศิลปินหลายต่อหลายคน เช่น ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ใน “แดนศิวิไลซ์” และวงไมโคร ใน “ร็อค เล็กๆ”
หลังจากผันตัวเองไปทำงานเบื้องหลังระยะหนึ่ง อัสนีก็ตัดสินใจ ทำผลงานเพลงตัวเองออกมา โดยดึงวสันต์มาร่วมด้วย เพลงชุดแรกในนามนักดนตรีดูโอร็อค “อัสนี-วสันต์” คือ “บ้าหอบฟาง” ในปี 2529 กับค่ายไนท์สปอต
แม้ว่าชุดนี้จะไม่ประสบความสำเร็จนักทางด้านยอดขาย แต่ก็เป็นอัลบั้ม ที่ได้รับการยอมรับจากนักวิจารณ์ว่า เป็นอัลบั้มที่ดีที่สุดชุดหนึ่ง
อัสนีกลายเป็นผู้เปิดตลาดเพลงร็อค สร้างลีลาการร้องที่เป็นเอกลักษณ์ คือการลากเสียงยาว ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ค่ายแกรมมี่ และออกอัลบั้มใหม่ในปี 2530 ซึ่งเป็นอัลบั้มที่สร้างความสำเร็จ และชื่อเสียงให้กับอัสนี-วสันต์ คือ “ผักชีโรยหน้า” โดยเฉพาะเพลง จิ๊กโก๋อกหักอย่าง “ก็เคยสัญญา” และเพลงรักนุ่มๆ “หนึ่งมิตรชิดใกล้” อัลบั้ม “ผักชีโรยหน้า” ได้รับการยกย่อง อย่างมากในการปรับเสียง ที่บาดคม และการคิดแนวทำนอง กีตาร์โซโล
ในปีรุ่งขึ้น อัลบั้มใหม่ “กระดี่ได้น้ำ” ก็ตามมา และทยอยออกอัลบั้มใหม่ติดๆกัน คือ “ฟักทอง” และ “สับปะรด” ในปี 2532 ,2533 แล้วก็เว้นวรรคห่างไปนานถึง 3 ปี อัสนีบอกว่า เป็นช่วงที่เขาต้องการพักเพื่อทบทวนตัวเอง และแสวงหาความแตกต่าง ให้กับผลงานชุดใหม่ อัลบั้มชุดถัดมาคือ “รุ้งกินน้ำ” ซึ่งอัสนีพยายามลดบทบาทกีตาร์ลง และนำเครื่องดนตรีอื่นๆ เข้ามาเสริม “รุ้งกินน้ำ” ได้รับรางวัลอัลบั้มยอดเยี่ยมประจำปี 2536 จากสีสันอะวอร์ดส
จาก “รุ้งกินน้ำ” อัสนีก็หันมาทำ บริษัทมอร์ มิวสิค ซึ่งก่อตั้งขึ้นปลายปี 2538 ในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ มอร์ มิวสิค อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินร็อคหน้าใหม่ หลายต่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็น โลโซ, แบล็กเฮด, ซิลลี่ ฟูลส์ และโจ-ก้อง ฯลฯ จนกระทั่งปี 2540 สองพี่น้องอัสนี-วสันต์ จึงได้ออกอัลบั้มร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง ในชุด “บางอ้อ”
17 ธันวาคม 2545 สองพี่น้องเจ้าของตำนานร็อค ก็ได้ฤกษ์วางอัลบั้มชุดใหม่”จินตนาการ” ให้แฟนเพลงที่รอคอยและคิดถึง ได้สะใจส่งท้ายปลายปี เปิดตัวด้วยเพลงชื่อเดียวกับอัลบั้ม “จินตนาการ” ที่ยังคงความเป็นอัสนีไว้เต็มเปี่ยม ตามด้วยเพลงช้าสไตล์คนอกหัก อย่าง”สิทธิ์ของเธอ” และ”ลูกผู้ชาย” ที่โดนใจคนฟังแน่นอน
วสันต์ โชติกุล (โต๊ะ)
Wasan Chotikul
วสันต์เป็นมือกีตาร์ที่มีรากฐานมาจากโฟล์ค ร็อค และคันทรี่ เป็นนักร้องนำและมือกีตาร์ประจำวงอิสซึ่น นอกจากมีอัลบั้มร่วมกับอัสนีพี่ชาย และทำอัลบั้มร่วมกับวงอิสซึ่นแล้ว จากประสบการณ์การเล่นกีตาร์เป็นอาชีพอยู่หลายปี จึงกล่าวได้ว่า วสันต์ถือเป็นหนึ่งในยอดกีตาริสต์ของเมืองไทย
รางวัลที่เคยได้รับ ชนะเลิศการประกวด โฟล์คซอง แห่งประเทศไทย ปี 2517
อดีตหนุ่มน้อยจังหวัดเลย ‘วสันต์ โชติกุล’ จากบ้านเกิด เพื่อเข้ามาเรียนวิทยาลัยเพาะช่างที่กรุงเทพฯ ความตั้งใจตอนแรกอยากเป็นครูสอนวาดเขียน เพราะเจ้าตัวมีฝีมือทางนี้ไม่น้อย
วันหนึ่งนึกสนุกขึ้นมา เลยไปลงชื่อประกวดโฟล์คซองไว้ ผ่านการคัดเลือกหลายต่อหลายรอบ จนถึงรอบชิงชนะเลิศ และสองพี่น้องอัสนี-วสันต์ ก็ได้เป็นแชมป์โฟล์คซอง ของชมรมโฟล์คซองแห่งประเทศไทย เมื่อปี 2517 เป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตจาก(ว่าที่)ครูสอนวาดเขียน มาสู่เส้นทางนักดนตรี
หลังจากได้แชมป์ อาจารย์วิมล จงวิไล หนึ่งในคณะกรรมการตัดสิน สนใจฝีมือของสองพี่น้องตระกูลโชติกุล จึงพาไปอัดเสียงและทำเทปออกมาหลายชุด ซึ่งเพลงส่วนใหญ่เป็นผลงานการแต่งของอาจารย์วิมล
วสันต์ทำงานดนตรีอย่างต่อเนื่อง นอกจากออกอัลบั้มแล้ว ยังมีงานประจำเล่นกลางคืนตามผับ ร้านอาหาร ในนามของวงอิสซึ่น โดยวสันต์ทำหน้าที่ร้องนำ และเล่นกีตาร์ จนหกระทั่งอิสซึ่นออกเทปไปประมาณ 4-5 ชุด อัสนีผู้พี่ก็แยกตัวออกไปเรียนรู้แนวทางดนตรีแบบอื่นๆ ในขณะที่วสันต์ยังคงเหนียวแน่นกับวงอิสซึ่น และยืนโฟล์คเป็นหลัก วสันต์ให้เหตุผลว่า เขารักเพลงแนวนี้ และถือเป็นเอกลักษณ์ของวงอิสซึ่น
หลังจากที่อัสนีแยกตัวไป วสันต์กับอิสซึ่นออกอัลบั้ม “บทเพลง” ในปี 2527 โดยมีอัสนีเป็นโปรดิวเซอร์ ต่อมาอัสนีเตรียมตัวทำอัลบั้ม “บ้าหอบฟาง” วสันต์จึงเข้าไปช่วยในส่วนของกีตาร์ และร้องประสาน และติดลมออกอัลบั้มอัสนี-วสันต์ ตามออกมาอีกหลายต่อหลายชุด ตั้งแต่ “ผักชีโรยหน้า”, “กระดี่ได้น้ำ”, “ฟักทอง”, “สับปะรด”, “รุ้งกินน้ำ” จนถึง “บางอ้อ”
แต่แนวดนตรีส่วนใหญ่ในอัลบั้มเหล่านี้ ก็ยังคงสะท้อนความเป็นอัสนี มากกว่าวสันต์ ในช่วงปี 2531 วสันต์กับอิสซึ่นจึงออกอัลบั้มใหม่อีกชุดหนึ่ง “กีตาร์โต๊ะ” เป็นแนวดนตรีที่วสันต์ถนัด คือ การร้องในท่วงทำนองต่ำ นุ่มนวล มีเสียงกีตาร์โปร่งฟังสบายๆ ซึ่งในชุดนี้มีเพลงที่วสันต์แต่งเองถึง 7 เพลง
ห่างไปเกือบ 4 ปี วสันต์กับอิสซึ่นจึงมีอัลบั้มใหม่ “ขึ้นโต๊ะ” ชุดนี้มีเพลงที่วสันต์แต่งเอง 4 เพลง คือ “ขึ้นโต๊ะ”, “ช่างมันนะ”, “ฝันที่สวยงาม” และ “ฉันเองก็เสียใจ”
วสันต์เคยวิจารณ์ว่าตัวเองว่า เสียงร้องทุ้มๆ ทำให้ไปได้ดีกับเพลงช้า จึงทำให้ความสำเร็จอย่างชัดเจนของวสันต์มักมาจากเพลงรักนุ่มๆ อย่าง “ให้เธอ”, “แทนคำนั้น” ที่มาพร้อมกับท่วงทำนองของกีตาร์ ที่ฟังดูก็รู้ว่าเป็น “สำเนียงกีตาร์โต๊ะ”
อัลบั้มที่”วสันต์” ทำร่วมกับวงอิสซึ่น
ปี 2527 อัลบั้ม บทเพลง
ปี 2531 อัลบั้ม กีตาร์โต๊ะ
ปี 2535 อัลบั้ม ขึ้นโต๊ะ
ปี 2529 อัลบั้ม บ้าหอบฟาง
บ้าหอบฟาง
ไม่เป็นไร
เดือนเพ็ญ
กาละเทศะ
น้ำเอยน้ำใจ
วันนี้ วันดี วันที่เป็นไท
สมชายกล้าหาญ
บอกแล้ว
ปี 2530 อัลบั้ม ผักชีโรยหน้า
ปี 2531 อัลบั้ม กระดี่ได้น้ำ
ปี 2532 อัลบั้ม ฟักทอง
ปี 2533 อัลบั้ม สับปะรด
ปี 2536 อัลบั้ม รุ้งกินน้ำ
ปี 2540 อัลบั้ม บางอ้อ
ปี 2545 อัลบั้ม จินตนาการ
Leave a reply