เบเกอรี่ มิวสิค |
บริษัท เบเกอรี่มิวสิค จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2537
จากความร่วมมือของสี่ผู้บุกเบิกนั้นคือ กมล สุโกศล แคลป, บอย โกสิยพงษ์, สมเกียรติ อริยชัยพานิชย์, และสาลินี ปันยารชุน จุดประสงค์แรกในการก่อตั้งคือ เพื่อแนะนำดนตรีแนว Alternative เข้าสู่วงการเพลงไทย สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่า 600,000 ตลับ โดยไม่ต้องพึ่งพาการโปรโมท หรือ โฆษณาเกินจริง และจากงานชุดนี้ ก็ทำให้ โมเดิร์นด๊อก ได้รับรางวัล “วงดนตรียอดเยี่ยมประจำปี” “เพลงยอดเยี่ยมประจำปี” และ”โปรดิวเซอร์ยอดเยี่ยม” 3 รางวัลในปีเดียวกัน จากงาน “สีสัน อะวอร์ด ครั้งที่ 6” ซึ่งเป็นรางวัลที่พิสูจน์ได้ถึงความเป็นตัวจริง
และในปีเดียวกันนี้เองที่วงการเพลงไทยก็ได้ต้อนรับ ผู้ชายโรแมนติก บอย โกสิยพงษ์ ที่กลับมาจากอเมริกาพร้อมด้วยซิงเกิ้ล “รักคุณเข้าแล้ว” เพลงเก่าที่นำมา อเร้นจ์ ใหม่ในแนว R&B ที่เขาถนัด และด้วยยอดขายที่มีจำนวนถึง 800,000 ตลับ ในอัลบั้ม “RHYTHM&BOYD” เมื่อปี 2538 คงเพียงพอที่จะพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี ถึงงานคุณภาพ และการต้อนรับที่อบอุ่นจากบรรดาแฟนเพลง ดังนั้นคงจะไม่ผิดนัก ถ้าจะกล่าวว่าอัลบั้มนี้คืออัลบั้มที่สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการเพลงไทย กับดนตรีแนวใหม่ จากค่ายเพลงเล็กๆ ที่ในขณะนั้นแทบจะไม่มีใครรู้จักเลย
ปีถัดมา Joey Boy หนุ่มแร็พจรวด ก็ออกมาเปิดตัวครั้งแรกกับมินิอัลบั้มที่ใช้ชื่อว่า “Joey Boy” จนได้รับความนิยมไปทั้วประเทศกับเพลง “เอ-โพด” ในแนวเพลงสไตล์ Hip Hop ที่ได้กลายมาเป็นสีสันใหม่ให้วงการเพลงไทย และในปีต่อมา พ.ศ. 2540 โจอี้ บอยก็ได้สร้างปรากฏการใหม่ให้กับวงการเพลงไทยอีกครั้งด้วยการสามารถนำอัลบั้ม Fun Fun Fun ทำยอดขายพุ่งถึง 1 ล้านตลับซึ่งสำหรับค่ายเพลงอินดี้แล้ว นับว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก
และที่ขาดไม่ได้อีกหนึ่งคนคือ โปรดิวเซอร์ชั้นนำในดนตรีแนวป๊อป ก็คือ สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ คนหนุ่มรุ่นใหม่ที่เป็นผู้บุกเบิกแนวเพลงแดนซ์ ให้วงการเพลงบ้านเรา จนได้รับฉายาว่า เป็น “พ่อมดเพลงแดนซ์” แห่งวงการไปแล้ว
กว่า 70 อัลบั้มเพลงคุณภาพ ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีหลายอัลบั้มที่มียอดขายกว่า 5 แสน ตลับ คงพอจะเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถ และความร่วมแรงร่วมใจของทีมงานทุกคน ได้เป็นอย่างดี และไม่เพียงมุ่งแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดเท่านั้น เหนือสิ่งอื่นใด ทีมงานทุกคนต่างพยายามที่จะแข่งขันกับตัวเองอยู่ตลอดเวลา และนี้ก็จะเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ค่ายเพลงแห่งนี้แข็งแกร่ง และประสบความสำเร็จเจริญเติบโตต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
และจากผลงานที่หลากหลายรูปแบบนี้เอง เบเกอรี่ มิวสิค จึงทำการจัดแบ่งแนวเพลงของตัวเองออกเป็นหมวดหมู่ โดยการใช้กลุ่มคนฟังดนตรีในสไตล์ต่างกันมาเป็นตัวแบ่ง และแยกตราแผ่นเสียงลูกออกมา ได้แก่
E – Z Baked (อีซี เบก), Bakery Classic (เบเกอรี่ คลาสสิค), Bakery International (เบเกอรี่ อินเตอร์เนชั่นแนล) และ Dojo City Corporation (โดโจซีตี้ คอร์ปอเรชั่น) ซึ่งถือได้ว่า เบเกอรี่ มิวสิค เป็นบริษัทดนตรีรายแรกของประเทศไทย ที่แยกกลุ่มคนฟังเพลงตามสไตล์ดนตรีออกมาได้อย่างชัดเจนที่สุด
E – Z Baked เป็นแนวเพลงที่กลุ่มคนที่ชอบฟังเพลงสบายๆ
Bakery Classic เป็นเพลงประเภทที่มีลักษณะรูปแบบ เฉพาะตัวที่ค้อนข้างซับซ้อนและร่วมสมัย
Bakery International นำเพลงในรูปแบบต่างๆ จากต่างประเทศ ซึ่งรวมทั้งที่นำมาจำหน่าย และร่วมงานกับทีมงานต่างประเทศผลิตผลงาน
Dojo City Corporation เจาะกลุ่มเฉพาะ Pre – teen เน้นกลุ่มเด็กและวัยรุ่นที่มีอายุระหว่าง 9 – 13 ปี
และในเดือนพฤษภาคมปี 1997 , เบเกอรี่ มิวสิคได้ก่อตั้งบริษัทจัดจำหน่ายของตัวเองขึ้น เรียกว่า Taxi Distribution ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่ามันเป็นความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วย ในการเจริญเติบโตและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด 59% จากผลกำไรที่ Taxi Distribution ได้รับจากผู้ค้าส่ง และ 41% จากผู้ค้ารายย่อยต่างๆ ซึ่งทางบริษัทคาดหวังไว้ว่า Taxi Distribution จะได้รับความนิยมเป็นอันดีบสามรองมาจาก MGA และ ONPA ภายในปี 1999
ที่มา : เบเกอรี่ มิวสิค
Leave a reply