ประเสริฐ พงษ์ธนานิกร หรือ ”ระย้า” แห่งรถไฟดนตรี เคยคิดตั้งชื่อนักร้องสาววัยรุ่นกลุ่มหนึ่งว่า ”สามใบเถา” เพราะมีกันอยู่ 3 คน แต่มันไปซ้ำกับชื่อภาพยนตร์ไทยในยุคนั้น ก็เลยเปลี่ยนมาใช้ ”สาว สาว สาว” และกลายเป็นชื่อที่ทุกคนยังจำกันได้จนถึงทุกวันนี้
จุดเริ่มต้นของ ”สาว สาว สาว” เกิดขึ้นเมื่อปี 2520 โดยตอนนั้น พัชริดา วัฒนา (แหม่ม), เสาวลักษณ์ ลีละบุตร (แอม) กับ อรวรรณ เย็นพูนสุข (ปุ้ม) เพิ่งอายุ 10, 12 และ 13 ตามลำดับ ได้มีโอกาสร่วมกันร้องเพลงออกโทรทัศน์ในรายการ ”ฉันทนาโชว์” ทางช่อง 5 กับ ”มิวสิกสแควร์” ทางช่อง 3 ซึ่งเสาวลักษณ์ก็คือลูกคนโตของฉันทนา กิตติยพันธ์ เจ้าของชื่อรายการ และเป็นอดีตนักร้องชื่อดัง ส่วนอรวรรณเป็นหลานของฉันทนา ขณะพัชริดาคือลูกสาว สุดา ชื่นบาน เพื่อนสนิทของฉันทนา ทั้งสามไปเข้าตา ”ระย้า” ผู้คิดตั้งกลุ่มนักร้องสาววัยรุ่นให้ค่ายอีเอ็มไอ ที่เขายังอยู่ด้วยในตอนนั้น หลังได้รับการแนะนำมาจาก วิรัช อยู่ถาวร อดีตมือกีตาร์วงซิลเวอร์แซนด์
สาว สาว สาว ออกผลงานชุดแรกคือ รักปักใจ ในปี 2524 ซึ่งเป็นการนำเอาเพลงเก่ามาทำใหม่ เช่น แฟนฉัน และ รักต่างแดน ของวงชาตรี แต่ประสบความสำเร็จในปี 2525 กับชุดที่ 2 ชื่อ ประตูใจ ซึ่งออกกับค่ายรถไฟดนตรีของระย้า และวงปะการัง เป็นแบ็กอัพ มีเพลงฮิตอย่าง ประตูใจ, อยากลืม (หนึ่งในเพลงที่เสาวลักษณ์เป็นคนแต่งเอง) และ รักคือฝันไป จนกระทั่งปี 2526 ชุด In Concert กับ เป็นแฟนกันได้อย่างไง ได้ออกตามมาพร้อมกันเพราะความดังของพวกเธอ โดยอัลบั้มแรกก็คือการนำงาน 2 ชุดแรกกลับมาร้องในคอนเสิร์ตรายการโลกดนตรี แถมยังเป็นครั้งแรกที่สาว สาว สาว บันทึกเสียงเพลงภาษาอังกฤษ คือ Hard To Say I”m Sorry, The One You Love, Mickey และเพลงญี่ปุ่น คือ I Love You ส่วนผลงานอีกชุด สร้างชื่อให้ในเพลง เป็นแฟนกันได้ยังไง, ฟ้ากว้าง ทางไกล กับ เพียงเพราะว่า
การออกโลกดนตรีครั้งที่ 2 ของสาว สาว สาว เมื่อ 28 สิงหาคม 2526 พร้อมด้วย บาราคูดัส วงแบ็กอัพ ได้รับความสนใจจากผู้ชมมากจนห้องส่งของช่อง 5 แตก และสร้างความเสียหายให้อุปกรณ์ถ่ายทอดสด เป็นสาเหตุทำให้รายการดังกล่าวต้องย้ายสถานที่ออกอากาศมาเป็นเวทีกลางแจ้งในเวลาต่อมา ถึงปี 2527 สาว สาว สาว ก็ได้รับการโหวตให้เป็นนักร้องหญิงยอดนิยมอันดับ 1 และอันดับ 3 ประเภทวงดนตรี รองจากแกรนด์เอ็กซ์ กับ แมคอินทอช จากนิตยสารโดเรมี พวกเธอโด่งดังถึงขนาดมีหนังสือ สาว สาว สาว คอลเลกชั่น ออกวางขายพร้อมอัลบั้มที่ 4 คือ หาคนร่วมฝัน ซึ่ง ทนงศักดิ์ อาภรณ์สิริ จากวงแกรนด์เอ็กซ์ รวมถึงบาราคูดัส และ ปะการัง มาทำดนตรีให้ แถมพัชริดา และอรวรรณได้แต่งเพลงในงานชุดนี้ด้วย
ปี 2528 สาว สาว สาว ออกชุด ในวัยเรียน แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ปีต่อมาพวกเธอจึงได้เปลี่ยนรูปแบบเพลงเป็นแนวโฟล์กซอง กับคันทรี กับอัลบั้ม แมกไม้และสายธาร ซึ่งได้ ภูสมิง มาช่วยทำดนตรี มีเพลงดังอย่าง คืนใจ กับ ทุ่งอ้อ ปี 2530 สาว สาว สาว ได้ออกอัลบั้มภาษาอังกฤษยกชุด คือ Because I Love You ซึ่งเป็นการร้องเพลงเก่าที่พวกเธอชอบเป็นส่วนใหญ่ และทำยอดขายดีเกินคาด ปี 2531 พวกเธอออกอัลบั้ม ว้าว… ที่มี ดิ อินโนเซ้นท์ มาทำดนตรีให้ทั้งชุด แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ โดยมีเพลงดังคือ เพียงแค่เธอลืมฉันไป สาว สาว สาว จึงต้องออกเพลงสากลชุด Together ในปีเดียวกัน แม้ผลตอบรับไม่ค่อยน่าพอใจ แต่พวกเธอก็ได้รับเลือกจากญี่ปุ่นให้เป็นตัวแทนของไทยเข้าร่วมงาน โตเกียว มิวสิก เฟสติวัล และสาว สาว สาว นำ ”Hana” เพลงปิดงานดังกล่าวของ ชินจิ ทานิมูระ มาบันทึกเสียงในอัลบั้ม ซึ่งออกเมื่อปี 2532 คือ ดอกไม้ของน้ำใจ และเป็นงานชิ้นสุดท้าย ก่อนสลายวง
หลังจากนั้นเสาวลักษณ์ไปแต่งเพลงให้แกรมมี่แบบเต็มตัว โดยทำเพลงดังให้ศิลปินหลายคน เช่น สุดฤทธิ์สุดเดช ของ ใหม่ เจริญปุระ, เสียมั้ย ของ อำพล ลำพูน, คำมักง่าย ของ บิลลี่ โอแกน, ขอจันทร์ ของ วิยะดา โกมารกุล ณ นคร และ ”ต้องดีกว่าเก่า” ของ ”ตั้ม” สมประสงค์ สิงหวนวัฒน์ ก่อนออกอัลบั้มเดี่ยวคือ บันทึกของดอกไม้เหล็ก ที่ทำให้เธอได้รางวัลนักร้องหญิงยอดเยี่ยม จากสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ปี 2535 และศิลปินเดี่ยวยอดเยี่ยมฝ่ายหญิงปี 2536 จากเวทีสีสัน อวอร์ด สำหรับพัชริดาหลังไปเรียนต่อ ก็กลับมาทำงานให้อาร์เอส โปรโมชั่น และออกอัลบั้มเดี่ยวกับค่ายนี้ ส่วนอรวรรณต่อมาเป็นศิลปินเดี่ยวค่ายอินเทอร์นอล และ พีจีเอ็ม แต่คนทั่วไปก็ยังไม่ลืมว่าครั้งหนึ่งพวกเธอเคยประสบความสำเร็จกับชื่อสาว สาว สาว กันแค่ไหน
ที่มา สยามดารา
