สวัสดีครับ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สมาชิกบ้านเพลงเก่ายังอยู่ครบกันหรือเปล่า ผมไม่ได้มีเวลา มาเขียนไดโน่สเตชั่น เกือบสามเดือนแน่ะ เพราะเหตุผลหลายประการ แต่เหตุผลหลักก็คือ มีมือไม่มากพอครับ อยากทำโน่นทำนี่เยอะไปหมด แต่ไม่มีมือมากพอนั่นเองครับ
สถานีเพลงเก่า กลับมาปัดฝุ่นคราวนี้ก็เพราะผมได้ไอเดียจากการเข้าไปตอบกระทู้ ในกระดาน เพลงเก่านั่นเองครับ โดยเฉพาะช่วงนี้ซึ่งดูเหมือนจะมีคน request เพลงละครเก่าๆเยอะเหลือเกิน ทั้งๆ ที่ผมก็อัพเพลงประกอบละคร ไปเยอะพอสมควร อย่างไรก็แล้วแต่ครับ ผมก็ยังมีเพลงประกอบละคร ประกอบภาพยนตร์ที่สะสมไว้อีกพอสมควร วันนี้เลยขออนุญาตขุดกรุเพลงเหล่านี้ออกมาให้ฟังกัน อาจจะ ไม่ได้มากมายนัก แต่ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงจำเพลงเหล่านี้ได้ดี และคงได้ย้อนรำลึกถึงอดีตว่าตอนที่ละคร เรื่องนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายตัวเองอยู่ที่ไหน ทำอะไรกันอยู่
จะว่าไปแล้ว เพลงประกอบละคร หรือภาพยนตร์ โดยส่วนใหญ่ ผู้แต่งเนื้อร้อง คงจะต้อง ทราบถึงเนื้อหา หรือ เรื่องราวของละครนั้นๆก่อน ถึงจะสามารถรวบรวมความคิด ผูกเรื่องราวต่าง ๆ ให้มาอยู่ในเพลงซึ่งมีความยาวประมาณ สามนาทีกว่าๆให้ได้ ละครหรือภาพยนตร์โดยส่วนใหญ่ จะมีเพลง ประกอบมากกว่า 1 เพลง ทั้งนี้ทั้งนั้น คงขึ้นอยู่กับช่วงจังหวะ หรืออารมณ์ ของเนื้อเรื่อง ตอนพระเอก นางเอก พบกัน หรือ ตอนอกหัก เพราะเพลงเหล่านี้จะช่วยเพิ่มอรรถรสการดูหนัง ดูละคร ได้อย่างดีทีเดียว เลยครับ
หากย้อนวันเวลากันกลับไป เพลงประกอบละคร ในสมัยก่อน เราอาจจะไม่ค่อยเห็นนักร้องเพลง สตริง หรือเพลงไทยสากล ไปเล่นละคร หรือร้องเพลงประกอบละครเท่าไหร่ นัก แต่มาช่วงหลังๆนี่เอง ที่นักร้อง มักจะไปเล่นละคร หรือเล่นละครจนดังแล้วก็ไปออกเทป ซึ่งเพลงประกอบละครนี่แหละครับ เป็น เพลงที่ค่อนข้างคุ้นหูเรามากที่สุด เพราะทีวีมีอยู่ที่บ้านนี่ครับ เปิดมาทีไร ก็จะต้องได้ยินเพลงประกอบละคร เหล่านี้ไปซะทุกครั้ง เพลงบางเพลงฟังครั้งแรกก็สะดุดหู เนื่องจากความไพเราะของเนื้อร้อง ของบทเพลง ตลอดจนเสียงของนักร้อง ที่ถูกเลือกมาร้องเพลงประกอบ นอกจากนั้น พอเราได้ดูละครเรื่องนั้นๆ แหม มันก็อินไปกับเพลงเข้าไปอีก หลายๆคนเคยบอกกับผมว่า ชอบฟังเพลงละครมาก เพราะว่าฟังทีไรก็เหมือน กับละครเรื่องนั้น ถูก replay ในหัวสมองขึ้นอีกครั้ง ก็อย่างที่บอกแหละครับว่า เพลงประกอบละคร เนื้อหา เนื้อร้อง ก็มาจากเนื้อเรื่องนั่นเอง ฉะนั้นก็เป็นเรื่องปกติครับ ที่หลังจากได้ฟังเพลงพวกนี้แล้ว เหมือนกับว่า ละครเรื่องนั้นๆ มันเด่นชัดขึ้นมาในความทรงจำอีกครั้ง
ผมเชื่อว่า หลายๆคนคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “ดูละครแล้วย้อนดูตัว” บางคนก็อาจจะได้ย้อนดู แต่บางคนก็อาจจะไม่ได้ย้อนซักเท่าไหร่ ในส่วนตัวของผม ละครต่างๆที่เค้าเล่นให้เราดู เรื่องบางเรื่อง ก็ดีซะจนเราประทับใจ แต่บางเรื่องเราก็ว่า แหม มันช่าง เน่า จนยุงบินกันว่อน หรือที่ฝรั่งเค้า มักเรียกละคร พวกนี้ว่า soap opera นั่นแหละครับ ในความคิดผม ผมว่าก็คงขึ้นอยู่กับตัวของผู้ดูแหละครับ ว่าเรา คาดหวังอะไรจากการดูละคร หากเราคาดหวังว่า จะได้อะไรที่เป็นประโยชน์เป็นข้อคิดในชีวิต ก็คงต้อง เลือกละคร ที่ค่อนข้างซีเรียส มีเนื้อหาไปในทางแบบนั้น แต่หากเราตั้งความหวังไว้แค่ว่า การดูละคร เป็นการดูเพื่อความบันเทิง ดูเพื่อผ่อนคลายตัวของเราเอง หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ผมว่า เรื่องอะไรก็ดูได้นะ แม้ว่าจะมียุงบินออกมาเป็นฝูงจากจอทีวีก็เถอะ
ตัวละครหลายๆตัวละคร ที่โลดแล่นอย่บนจอทีวี บางคนอาจดูไปก็มีคำถามไปว่า คนแบบนี้มีด้วย หรือในชีวิตจริงๆ ประเภทที่ว่า ตัวร้าย ก็ร้ายไม่รู้จักเข็ดซะที ไม่ยอมกลับตัว แม้ว่า นางเอกผู้แสนดีจะ ให้อภัยเป็นครั้งที่ล้าน หรือพระเอกก็ช่างเป็นคนดี อะไรเช่นนี้ ไม่ว่า น้ำตาจะตกในแค่ไหน ไม่ว่าฟ้าจะถล่ม ดินจะทลาย ก็จะตามรักนางเอกไปเรื่อยๆ (เห็นแล้วเหนื่อยแทน) ดูแล้วในโลกแห่งความเป็นจริงมันไม่น่า จะเป็นไปได้ใช่มั้ยครับ แต่จริงๆแล้วมันมีครับ ยิ่งปัจจุบัน ผมว่ายุคของสังคม ยุคของโลกมันเปลี่ยนไป เพียงแต่ว่า เราจะเจอคนแบบนี้หรือเปล่าเท่านั้นเอง
คนบางคนเค้าอาจจะเป็นคนดีแบบดีมากๆ แต่เราก็จะเริ่มระแวงแล้ว ว่าคนนี้เค้าจะดีกับเรามาก ขนาดนี้เชียวหรอ แล้วเค้าจะมาไม้ไหนกับเราล่ะเนี่ย หรือทำอะไรหวังผลตอบแทนหรือเปล่า สิ่งเหล่า นี้ทั้งหมดทำให้เราเกิดความไม่มั่นใจ ไม่แน่ใจกับคนๆนั้นขึ้นมาแล้วแหละครับ ซึ่งความไม่แน่ใจ หรือความ ระแวงของตัวเรา อาจจะไปกระทบใจกับคนที่เค้าทำดีกับเรามากๆ โดยที่เราไม่รู้สึกตัวก็ได้นะครับ ซึ่ง ประเด็นนี้คงต้องระมัดระวังกันเป็นพิเศษ เพราะอาจจะทำให้เราเสียคนดีๆ เสียเพื่อนดีๆ ไปโดยที่เรา ไม่รู้ตัวเลยก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็คงต้องใช้วิจารณญาณ ในการคิด พิจารณา เป็นกรณีๆไป
ในสังคมยุคปัจจุบัน หากเราจะมองว่า คนทุกคนเป็นคนดีทั้งหมด มันก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะภัย ต่างๆที่มี ก็มาจากคนรอบข้างนี่แหละครับ เป็นสำคัญ ผมว่าการจะคบกับใครสักคน ก็คงต้องดูนิสัย ใจคอกันไปเรื่อยๆ ไม่ต้องทุ่มให้กับเค้าเต็ม 100% แล้วก็ไม่ได้ไปติดลบกับเค้า เผื่อใจกันไว้ซักนิดครับสัก 50-50 ถ้าคบไปเรื่อยๆ แล้ว เห็นว่าเค้าดี เค้าโอเค เปอร์เซนต์ของการเผื่อ ค่อยลดลงมา หากวันไหน ที่ความคิดไม่ตรงกัน มีบางประเด็นมันไปกันไม่ได้ ถ้าจะเจ็บ เราจะได้เจ็บน้อยหน่อยไงล่ะครับ
อย่างไรก็ตามครับ โดยส่วนตัวผมก็อยากให้สังคมของเรามีพระเอก นางเอก ที่แสนดีอยู่เยอะๆ ในมุมของการปฏิบัติตัวกับสังคมนะครับ ในเรื่องส่วนตัวจริงๆ ผมคงไม่สามารถไปบอกอะไรได้มากกว่านี้ เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับ ภูมิหลัง ครอบครัว สิ่งรอบข้าง ของแต่ละคน แต่ผมเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า หาก เราจะทำแล้ว เราทุกคนทำได้ครับ โดยเริ่มต้นจากสิ่งง่ายๆก่อน ไม่ว่าจะเป็นการหยิบยื่นน้ำใจ เล็กๆ น้อยๆ ให้แก่กัน เช่น คุณผู้ชาย ก็อาจจะลุกให้ สุภาพสตรี เด็ก และคนชรานั่ง มิใช่คอยแต่นั่งหลับ โดยเฉพาะจะ หลับเร็วมาก เมื่อมีเพศที่อ่อนแอกว่า มายืนใกล้ๆ หรือคุณผู้หญิง เองก็อาจจะช่วยถือของเล็กๆน้อยๆ คนที่ถูกหยิบยื่นน้ำใจให้ เค้าก็จะไปหยิบยื่นน้ำใจให้คนอื่นต่อๆกันไป ถ้าทุกคนร่วมมือร่วมใจกันทำ คนละ เล็กละน้อย เพียงแค่นี้ ก็ทำให้สังคมของเราน่าอยู่ขึ้นเยอะแล้ว จริงมั้ยครับ
เพลงเฝ้ารอ – OST. ท่านขุนน้อยแห่งสยาม
เพลงทำไม – OST. กระโปรงบานขาสั้น 1
เพลงกนกลายโบตั๋น – OST. กนกลายโบตั๋น
เพลงพี่เลี้ยง- OST. พี่เลี้ยง
เพลงลอดลายมังกร – OST. ลอดลายมังกร
เพลงริษยา – OST. ริษยา
เพลง เพราะมีเธอในโลกใบนี้ – OST. รักเดียวของเจนจิรา
เพลงบัวแล้งน้ำ – OST. บัวแล้งน้ำ
เพลงไม่มีอะไรสาย – OST. ม.6/2 ห้องครูวารี
เพลงอยากถาม – OST. ปุกปุย
เพลงบาปบริสุทธิ์ – OST. บาปบริสุทธิ์
เพลงหางเครื่อง – OST. หางเครื่อง