พันธ์ทิพย์ เสกโลโซ ปกแดง

3 หนุ่ม โลโซ ตอกย้ำวงการเพลงร็อกด้วยอัลบั้มใหม่ โลโซ ปกแดง ที่นำทีมโดย เสก โลโซ ( เสกสรรค์ ศุขพิมาย ) , รัฐ โลโซ ( อภิรัฐ สุขจิตร์ ) และ ใหญ่ โลโซ ( กิตติศักดิ์ โคตรคำ ) กับงานเพลงภายใต้สังกัด ” มอร์ มิวสิค ” ในเครือ
แกรมมี่ฯ

ชุดนี้แค่ชื่อก็สามารถบอก ถึงความแตกต่าง และความหมายลึก ๆ ที่ซ่อนเร้นแฝงไว้ ในเนื้อเพลงแต่ละเพลงไม่ว่าจะเป็นเพลง พันธ์ทิพย์ เพลงรักกุ๊กกิ๊กที่คู่รักมัก จะชวนคนรักไปเดินเที่ยวตามห้างสรรพสินค้า และเพลงนี้ทั้งจังหวะดนตรี และเนื้อร้องก็สนุกสนาน บอกถึงความเป็น ” โลโซ ” อย่างแท้จริง

เสก เผยความรู้สึกเกี่ยวกับผลงานชุดใหม่

” โลโซ ปกแดง จริง ๆ แล้วผมต้องการจะสื่อ ให้แฟนเพลงได้รับรู้ว่า มันไม่ไหวแล้วนะ ไม่ว่าจะเป็นเทปผี ซีดีเถื่อน หรือ ยาเสพติด ฯลฯ ที่ตอนนี้มันคุกคามหนักขึ้นเหลือเกิน แต่ผมก็ไม่ได้เขียนเพลงเหล่านี้ต่อว่าใคร เพียงแต่อยากจะปลุกจิตสำนึก ถ้าทุก ๆ คนช่วยกันไอ้สิ่งเหล่านี้ ก็จะไม่มีทางเจริญเติบโตได้ขนาดนี้ ทุกอัลบั้มของโลโซ จะมีเพลงประเภทนี้อยู่ตลอด เพื่อเป็นสาระในการฟังเพลงบ้างไม่ใช่จะมีแต่เพลงรัก อย่างเดียว อย่างชุดแรกของผมเลย ก็มีเพลงที่พูดถึง ” เอดส์ ” มาถึงชุดใหม่นี้ ผมอาจจะเน้นจุดบางจุดหนักขึ้น แต่ผมก็แฝงความหมายเหล่านั้นไว้ในเนื้อเพลง ที่ฟังแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะต้อง ” เครียด ” ไปด้วย อย่างเพลงที่เกี่ยวกับยาเสพติดนี้ ผมก็แต่งออกมาเป็นทำนอง น่ารัก น่ารักจังหวะสนุก ๆ ถ้าฟังแล้วคิดตาม ไปด้วยก็จะเข้าใจครับ ”

เพลง พันธ์ทิพย์ นี้ก็เป็นเพลงแรกที่ถูกนำมาทำเป็นมิวสิควิดีโอที่มีบรรยากาศสนุก ๆ พร้อมเรื่องราวของ 3 หนุ่ม โลโซ ที่เล่นดนตรีกันอยู่ในบ้านกันอย่างเมามัน แบบเต็ม ๆ ไม่มีเบรค ซึ่งโลเกชั่นนั้นทางกองถ่ายก็ได้ร้าน BLUE SEA BAR ย่านเอกมัย เป็นที่ถ่ายทำกันทั้งเรื่อง เริ่มตั้งแต่สระว่ายน้ำ , ห้องส่วนบนที่ถูกเซ็ทไว้เป็นห้องนอน และอีกบางมุมของร้านที่เซ็ทไว้เป็นฉากสบาย ๆ เหมือนห้องนั่งเล่น แต่การถ่ายทำไม่ได้สบายอย่างที่คิด โดยเฉพาะฉากที่เซ็ทเป็นห้องนั่งเล่น เพราะด้วยเนื้อที่ ๆ เล็กมากอยู่แล้ว พอนำเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นเข้าไปห้องนั้นก็ดูคับแคบไปในทันตา แต่หนุ่ม เสก ของเรานั้นเครื่องติดเสียแล้ว ยิ่งร้อน ยิ่งเล่นยิ่งมัน พอได้จังหวะเสก ก็กระโดดกางขาแบบสุดๆเล่นเอาตากล้องและทีมงานหลบกันแทบไม่ทัน

การถ่ายทอดอารมณ์ของความเจ็บปวด ผ่าน MV เคยรักฉันบ้างไหม ของ เสก โลโซ

ในการถ่ายทำมิวสิควิดีโองานเพลงชุดใหม่ โลโซ ปกแดง มิวสิควิดีโอเพลงแรกของชุด พันธ์ทิพย์ ก็โดนใจแฟนเพลงกันทั่วประเทศ ทั้งเรื่องราว และเนื้อหาของเพลง ส่วนมิวสิควิดีโอเพลงที่สองที่กำลังตามมานั้น เป็นเรื่องราวของความรักที่เจ็บปวด เพลง เคยรักฉันบ้างไหม ของ สามหนุ่ม โลโซ จึงถูกถ่ายทอดออกมาโดย ตั้น – พิเชษฐ์ไชย ผลดี รับบทถูกทอดทิ้งอย่างไม่ใยดีจากนางเอกไฮโซ อ้อน – เฉลิมขวัญ โชติเวช การถ่ายทำถูกแบ่งออกเป็น 2 ภาค

โดยภาคแรกนั้นทีมงานได้ใช้อาคาร ปริ้นซ์เซส ทาวเวอร์ ย่านเจริญนคร เป็นออฟฟิตของหมอผู้ชำนาญทางจิตเวช ซึ่งพระเอกของเราหลัง จากที่ถูกสาวคนรักทิ้งไปแล้ว แต่ความเจ็บปวดทางจิตใจไม่ได้เจือจางลงไปเลย ทางที่จะทำให้เขาดีขึ้นบ้าง คือการที่ได้ไปคุยและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้หมอได้รับฟัง ฉากนี้จะเริ่มตั้งแต่พระเอกของเรานอนลงบน เตียง พร้อมกับคำถามจากคุณหมอ แล้วเหตุการณ์เมื่ออดีตก็ย้อนกลับมา ซึ่งจบจากฉากนี้จะเป็นการตัด กลับไปที่วง โลโซ ซึ่งมี เสก โลโซ ( เสกสรรค์ ศุขพิมาย ), รัฐ โลโซ ( อภิรัฐ สุขจิตร์ ) และ ใหญ่ โลโซ ( กิตติศักดิ์ โคตรคำ ) พร้อมทั้งวงเครื่องสาย STRING QUARTET กำลังบรรเลงเพลง เคยรักฉันบ้างไหม อยู่กลางสายน้ำ ที่ถูกเซ็ทไว้ในสตูดิโอ ไรเฟ็นเบิร์ก

การเล่าเรื่องของพระเอกจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งตรงนี้ ทางทีมงานได้ใช้สัญลักษณ์จากรูปภาพที่เป็นวิวของทะเลซึ่งถูกแขวนไว้ใน ออฟฟิตของหมอ ช่วงไหนที่เป็นความแรงของความรู้สึกก็จะแทนอารมณ์นั้นด้วย ลมที่พัดเข้ามาอย่าง รุนแรงเพียงชั่วขณะเดียว แล้วก็หายไป จนถึงจุดที่พระเอกต้องการคำตอบจากคนรัก ก็แทนความรุนแรง นั้นด้วย น้ำที่ถูกพัดอย่างเชี่ยวกราด ทั้งสองเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นพร้อม ๆ กันทั้งทีออฟฟิตหมอและที่วงโลโซ และเครื่องสายซึ่งกำลังบรรเลงเพลงแรงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

เรื่องราวของเพลง เคยรักฉันบ้างไหม การถ่ายทอดอารมณ์ของความเจ็บปวดที่ถูกเก็บกด ขณะเดียวกันก็พยายามหาคำตอบว่าทำไมคนรักถึงต้องทิ้งเขาไปแบบนี้ ด้วยเรื่องราวและเนื้อหาของ เพลง บวกกับการวางพล็อตเรื่อง ที่ค่อย ๆ BUILD ความรู้สึกอย่างช้า ๆ แล้วก็แรงขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงอารมณ์ ที่พีคสุด ๆ ของพระเอก แล้วเรื่องทั้งหมดก็ตัดกลับมาที่พระเอก เป็นอะไรที่ชวนติดตามนะครับ เพราะมิวสิควิดีโอเพลงนี้จะถูกตัดสลับกันไประหว่างเรื่องของพระเอก, นางเอก และ วงโลโซ แต่มีราย ละเอียดเยอะมากในมิวสิควิดีโอเรื่องนี้

 

ปู vs โต ปลื้ม ไอเดียผู้กำกับ ขอลุย เล่นเอง ในมิวสิควิดิโออัลบั้มพี่น้อง ร้องเพลง อัสนี วสันต์

เล่าเรื่องเบื้องหลังการถ่ายทำมิวสิควิดิโอเพลงเก่า เพลง อยากจะรู้ และ ทั้งๆ ทีรู้ ในอัลบั้ม พี่น้องร้องเพลง อัสนี วสันต์ ที่ปู แบล็คเฮด และ โต ซิลลี่ฟูล มาแสดง

มิวสิควีดีโอเพลง “อยากจะลืม” และเพลง “ทั้ง ๆ ที่รู้ ” จากเสียงร้องของนาย ปู แบล็คเฮด และ นาย โต ซิลลี่ฟูล ในอัลบั้ม ..ลงเอย พี่น้อง ร้องเพลง อัสนี วสันต์ ที่ตอนนี้ไม่ว่าคุณไปที่ไหน ก็มักจะได้ยินเพลงในอัลบั้มนี้เปิดคลอกันตามที่ต่าง ๆ อยู่เสมอ ได้ชม โดยส่วนตัวแล้ว ขอยกนิ้วให้กับไอเดียการสร้างสรรค์ มิวสิคตัวนี้นะ ว่าทำได้เยี่ยมยอดจริง ๆ เพราะ ผู้กำกับ เค้าตั้งใจผูกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในที่ ๆ เดียวกัน ด้วย การเสนอในมุมมองที่แตกต่าง ของคน 2 คน มาทำเป็นมิวสิควีดีโอให้ดูกันรวดเดียว ถึง 2 เพลง ถือเป็นจุดแตกต่างจากมิวสิคตัวอื่น ๆ ที่คุณ มักจะได้ชมกันอยู่บ่อย ๆ

ในส่วนของการถ่ายทำนั้น ทีมงานเขาได้ใช้สถานที่ ย่าน RCA เป็นหลัก โดยถ่ายทำเป็นเส้นเรื่องก่อน ขั้นตอนได้แบ่งสลับกันถ่ายไปมาทั้ง 2 เพลง และ แน่นอน บทพระเอกผู้น่าสงสารก็ตกเป็นของนายปู ที่งานนี้จะต้องรับบทหนัก เพราะ นอกจาก โดนสาวเจ้าบอกเลิกแล้ว ยังต้อง โดนซ้อม ทั้ง รถชน และฉากที่ถูกเหล่านักข่าวรุมสัมภาษณ์ เรียกว่า แต่ละฉากที่ผ่านไปนายปู ต้องปรับอารมณ์ กันน่าดูทีเดียว

แถมสาวเจ้ายังทำร้ายจิตใจด้วยการหันไปคบหากับหนุ่มอีกคน อย่างเปิดเผย แต่ทุกอย่างก็ผ่านฉลุย และบทของ ตาอยู่ ผู้มาทีหลังแต่กลับได้ของดีไป ก็ตกเป็นของนาย โต อย่างเหมาะสม ด้วยลีลา ท่าทาง อารมณ์ เข้ากับเนื้อหาของเพลง ” ทั้ง ๆ ที่รู้ ” นี้เหลือเกิน งานนี้ ทำให้เรายังได้ทราบอีกว่า ผู้กำกับ เค้าได้ใช้เทคนิคในตัดต่อภาพ การใช้โทนสี และการใช้เสียงประกอบ แทนแต่ละช่วงอารมณ์ ของมิวสิคตัวนี้ได้ดีทีเดียว

โฟร์ท หมดแรงร้อง ไม่มีฉันคนนั้นอีกแล้ว”

ถ่ายทำสกู๊ปเปิดตัวด้วย 3 เพลง คือ ไม่มีฉันคนนั้นอีกแล้ว, คลื่นใต้น้ำ และ ฉันทำไม่ได้ ให้แฟนๆ ได้ชมกันไปแล้ว สำหรับ โฟร์ท-นฤมล จิวังกูร นักร้องเสียงดีของค่าย อาร์เอส ซึ่งเธอเล่าให้ฟังว่า “สำหรับการถ่ายทำสกู๊ปในวันนี้ ไม่ยากนะคะก็จะเป็นการถ่ายไลน์ซิงเพลงใหม่ในอัลบั้ม เมจิก เลิฟ นี้ 3 เพลง แล้วก็เป็นการสัมภาษณ์พูดคุย ก็ไม่ยากนะคะ ถ้ายากตอนร้องอยู่ในห้องอัดยากกว่าเยอะเลยค่ะ โดยเฉพาะเพลง ไม่มีฉันคนนั้นอีกแล้ว ที่กำลังมีมิวสิกฯ ให้ได้ชมกันนี่แหละค่ะ จะเรียกว่ายากที่สุดในอัลบั้มเลยก็ได้ค่ะ เพราะตอนขึ้นเพลงจะใช้เสียงสูงมาก แล้วก็ใช้เรนจ์เสียงค่อนข้างกว้าง ต้องใช้ลมหายใจยาวมาก…ก แล้วก็ต้องหาเสียงร้อง ที่ไม่ให้แข็งเกินไปแล้วก็ฟังเพราะ ยากค่ะเพลงนี้เข้าห้องอัดเพลงแรก ร้องจนหมดแรง ต้องเปลี่ยนไปร้องเพลงอื่นก่อน จนถึงที่สุดเพลงนี้ก็เป็นเพลงที่เสร็จเป็นเพลงสุดท้ายค่ะ โฟร์ทว่าเพลงนี้แค่ประโยคที่ว่า “ไม่มีฉันคนนั้นบนโลกนี้อีกแล้ว” นี่ก็อธิบายได้ทุกอย่างแล้วนะคะ รวมทั้งเรื่องราวในมิวสิกวีดิโอด้วย ซึ่งตอนนี้ถ่ายทำเสร็จแล้ว และออกอากาศให้ชมกันอยู่ แล้วโฟร์ทก็อยากให้ติดตามกันดูนะคะ”

“ส่วนกระแสตอบรับเพลงนี้เท่าที่เจอมา เขาจะบอกว่าสะใจดี แล้วคนที่บอกส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง อย่างอัลบั้มแรก แฟนเพลงจะติดภาพว่าเพลงของโฟร์ทจะต้องเศร้า เป็นความรักที่ผู้หญิงต้องยอมเจ็บยอมทนทุกอย่าง อย่างนาฬิกาทรายจะเศร้ามาก พอมาอัลบั้มเมจิก เลิฟนี้ ก็จะมีมุมมองความรักในแบบอื่นๆ เพิ่มเข้ามา อย่างเพลง ไม่มีฉันคนนั้นอีกแล้ว ถึงจะเศร้าแต่ก็เด็ดขาด เนื้อหาของเพลงจะพูดถึงความรักที่บางครั้งผู้ชายอาจจะคิดว่า ผู้หญิงเวลารักมากๆ จะโดนทำร้ายจิตใจยังไงก็ยอม แต่เพลงนี้ไม่ยอมค่ะ คือถ้าคิดว่า ไปแล้วกลับมาจะได้ความรักเหมือนเดิม มันไม่ใช่แล้ว ไม่มีฉันคนที่เคยรักเธออยู่บนโลกนี้อีกแล้ว ซึ่งโฟร์ทว่าเดี๋ยวนี้จะเป็นแบบนี้กันส่วนใหญ่นะคะ คือค่อนข้างเด็ดขาด อาจจะเป็นเพราะผู้หญิงเดี๋ยวนี้ทำงานนอกบ้าน พึ่งพาตัวเองได้ แล้วก็มองความรักด้วยความเป็นจริงมากขึ้น ถ้าอยู่ไม่ได้ก็ไม่ควรดันทุรัง ซึ่งโฟร์ทก็ดีใจนะคะที่แฟนเพลงชอบกัน”

เจ็บไม่จำ ปาน ธนพร

“ปาน-ธนพร” ถ่ายมิวสิกฯ “เจ็บไม่จำ” ตามคำเรียกร้อง

มาแรงไม่ตกแบบต่อเนื่อง สำหรับนักร้องสาวเสียงดี “ปาน ธนพร แวกประยูร” เรียกว่า ปล่อยเพลงไหนออกมาก็โดน ใจบรรดาแฟน ๆ เพลงไปเสียหมด ตั้งแต่ ตบมือข้างเดียว หว่านเมล็ดบนเม็ดทราย 3 คน 2 ทาง ผู้หญิงทุกคนเอาแต่ใจ และล่าสุดกับเพลงช้า เพลงที่ 5 เจ็บไม่จำ ซึ่งตอนนี้อาร์เอส.ฯ ได้ถ่ายทำออกมาเป็น มิวสิกวีดีโอให้ชมกัน แล้วตามคำเรียกร้อง ซึ่ง ปาน ได้พูดถึงเพลงนี้ว่า…

“ปานว่า เพลง เจ็บไม่จำ” เป็นเพลงที่พูดถึงจุดอ่อน จุดหนึ่งของผู้หญิง เพราะผู้หญิงเราเนี่ยชอบใจอ่อนค่ะ คือถ้ารักใครแล้วก็จะมั่นคง ต่อให้เขาทำให้เราเจ็บแค่ไหน แต่เมื่อเขากลับมาทำดีกับเรา เราก็อดที่จะให้อภัยเขาไม่ได้ทุกที เพลงนี้ก็เลยจะเหมือนกับ ต่อว่าตัวเองนะคะว่า ทำไมเจ็บแล้วไม่จำซักที ให้เขาทำร้ายเราอยู่ได้ ซึ่งก็เป็นความรักที่เรา พบเจอกันบ่อย ๆ นะคะ ทั้งจากละคร หนัง รวมทั้งชีวิตของคนจริง ๆ ด้วย ก็มีหลาย ๆ เสียงนะคะ ที่บอกว่า เออ…เนื้อหาเพลงนี้ก็ถูกใจนะ ชอบ เราก็เลยหยิบเอามาทำ เป็นมิวสิกวีดีโอให้ชมกัน เป็นเพลงที่ 5 ค่ะ โดยพี่ ๆ ทีมงานเขาจะวาง เรื่องให้เป็นเรื่องราวที่ สามารถพบเห็นได้ โดยเรื่อง จะเกิดขึ้นในออฟฟิศ นางเอกจะแอบหลงรัก เพื่อนร่วมงาน ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าเขามีแฟนแล้ว พอเขา มาทำดีด้วยก็ดีใจ มีความหวัง แต่พอเจอเขากับแฟน ก็มานั่งเสียใจอยู่คนเดียว คือเป็นเรื่องธรรมดา ๆ มาก

ซึ่งปานเชื่อว่าทุกออฟฟิศต้อง มี หรือบางคนอาจจะเคย เจอกับตัวด้วยซ้ำ ก็คิดว่าถ้าได้ชมมิวสิกวิดีโอ เพลงนี้กันแล้วคงจะ ถูกใจกันนะคะ

เป็นไง มาไง ในมิสชั่น โฟร์ โปรเจค

เป็นไง มาไง ใน มิสชั่น โฟร์ โปรเจค

โปรเจคพิเศษแห่งปี กับอัลบั้ม “มิชชั่น โฟร์ โปรเจค” ที่รวมเอา 4 ซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทยอย่าง “เจมส์-โดม-จอนนี่-วอย” มารวมตัวกัน เป็นไงมาไง ตามมากัน

ด้วยพื้นฐานของความเป็นเพื่อน และเล่นดนตรีเหมือนๆ กัน โดยมี เจมส์ เล่นกลอง, โดม และ จอนนี่ เล่นกีตาร์ และวอย เล่นเบส และผู้ที่รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์ ในงานนี้คือ สมพร โชคดีมีบุญ

มาดูซิว่า สี่หนุ่มจะพูดถึงอัลบั้มชุดนี้กันว่าอย่างไรกันบ้าง

“ที่มาของอัลบั้มนี้ เกิดขึ้นจากการที่พวกเราชอบเล่นดนตรี และก็สนิทกันอยู่แล้ว ที่สำคัญเล่นดนตรีกันเป็นอยู่แล้ว และ พี่ณรงค์ เดชะ ก็เห็นว่าพวกเราน่าจะมารวมตัวกัน เป็นอัลบั้มขึ้นมา ซึ่งพวกเราก็เคยคิดว่า เพียงอยากแค่ได้แจมกันเล่นดนตรีก็พอใจแล้ว พอได้ออกมาเป็นอัลบั้มในรูปแบบของวง ก็รู้สึกภูมิใจมากครับ” เจมส์กล่าว

โดม “สำหรับการรวมตัวกันของพวกเรา แต่ละคนก็จะมีความชอบ และถนัดแนวดนตรีที่แตกต่างกัน แต่เราก็จะมีจุดกึ่งกลาง คือการนำดนตรีที่เราชอบ มาผสมผสานเข้ากัน ตามความเหมาะสม แต่จะมีแนวยืนพื้นเป็น ป็อปร็อค”

จอนนี่ “อัลบั้มนี้ เป็นอัลบั้มที่ต้องการความเป็นทีมเวิร์คมากๆ เพราะต่างคนก็ ต่างเล่นกันมา ก็ต้องมาปรับเข้าหากัน พวกเราก็จะซ้อมกันหนักมาก เพราะเป็นเพลงใหม่หมดทั้ง 10 เพลง ไม่เคยเล่นกันมาก่อน เวลาที่ว่างพวกเราก็ให้เวลากับการซ้อมมากๆ เพราะเราเล่นกันสดๆ ทุกเพลง”

วอย “พวกเราก็อยากให้แฟนๆ ได้สัมผัสกับพวกเราในรูปแบบใหม่ เพราะจากที่เคยเห็นพวกเรา ร้องเพลงอย่างเดียว คราวนี้พวกเราเล่นดนตรีกันเอง ถึงแม้ว่าพวกเราจะต้องซ้อมกันหนักมาก เพราะอยากให้ได้งานที่ดีที่สุดกับแฟนๆ แต่พวกเราก็สนุกที่จะได้เล่นดนตรีให้ทุกคนได้ฟังกันสดๆ ครับ”

โต้รุ่ง อาร์ม-ศิริโรจน์ ศิริเจริญ

สร้างความครึกครื้นให้กับแฟน ๆ สำหรับเพลงสนุก ๆ จังหวะ โจ๊ะ ๆ อย่าง “โต้รุ่ง” ในอัลบั้ม “อาร์ม โต้รุ่ง” ของหนุ่มโจ๋เสียงดี “อาร์ม-ศิริโรจน์ ศิริเจริญ” ซึ่งทำให้เจ้าตัวปลื้มอกปลื้มใจเป็น อย่างมาก ที่แฟน ๆ ให้การต้อนรับ ผลงานชุดนี้อย่างอบอุ่น ซึ่ง “อาร์ม” เปิดใจว่า “สำหรับเพลง โต้รุ่ง นี่ ถ้าฟังกันดี ๆ แล้วจะเห็นว่า เนื้อหา ของเพลงจะให้ความรู้สึกว่าเป็น เรื่องที่เศร้ามาก เพราะเป็นเรื่องของคนที่อกหักคนหนึ่ง แต่การถ่ายทอดในแบบ ของ อาร์ม ก็จะไม่ยอมให้เศร้า ซึ่งโดยส่วนตัวเวลาที่ อาร์ม เจอเรื่องแบบนี้

อาร์ม ก็จะไม่เศร้ามาก เพราะ อาร์ม คิดว่า ถ้าเรายิ่งจมไป กับความเศร้า เราก็จะไม่มีเวลาที่ จะคิดทำอย่างอื่นอีก พี่วินัย จรัสอาชา ที่เป็นคนเขียนเพลง นี้ก็ได้หยิบคาแรกเตอร์ ที่เป็น อาร์ม จริง ๆ ถ่ายทอดออกมา เป็นเนื้อเพลง และอาร์ม ก็ร้องออกมาในอารมณ์ที่สนุก ว่าทิ้งกันไปก็ดีแล้ว ไม่เป็นไรฉันจะฉลอง ให้ถึงเช้าเลย ซึ่งเวลาที่เข้าห้องอัด เพลงนี้จะเป็นเพลงที่ทีมงาน ทุกคนสนุกกันมาก ไม่ว่าจะเป็น พี่โจว์อั๋น (สราวุธ มิ่งขวัญ) พี่เจษ (เจษฎา หันช่อ) และพี่ ๆ ที่ร่วมทีมทำงานกับอาร์ม อีกหลาย ๆ คน เพราะทุกคนได้มาร่วมแจมเสียง ร้องในเพลงนี้ในท่อน อ้าว โต้รุ่ง กันหน่อย ซึ่งฟีดแบคที่ได้รับก็ทำให้ อาร์ม ปลื้มใจมากครับที่แฟน ๆ ชอบเพลงนี้ และให้การต้อนรับอัลบั้มชุด นี้อย่างอบอุ่น ตอนนี้ พี่ๆ ดีเจที่ต่างจังหวัดก็บอกว่ามีแฟน ๆ ขอกันมาเยอะ และสถานที่ที่จัดงาน รื่นเริงต่าง ๆ ก็นำเพลง โต้รุ่ง ของ อาร์ม มาเปิดกันน ซึ่ง อาร์ม ก็ดีใจว่าเพลงของ อาร์ม สามารถสร้างความสุข ให้กับแฟน ๆ ทุกคนได้ครับ”

บทสัมภาษณ์ พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ จากกองถ่ายทำเบื้องหลังมิวสิควีดีโอ “กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง”

บทสัมภาษณ์ พี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ จากกองถ่ายทำเบื้องหลังมิวสิควีดีโอ “กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง” การเลือกนักแสดง และความเห็นเกี่ยวกับงานเพลง

  บทสัมภาษณ์ คำต่อคำ ปากต่อปาก จากกองถ่ายทำเบื้องหลังมิวสิควีดีโอ “กลับไม่ได้ ไปไม่ถึง” ของ เบิร์ด ..ธงไชย แมคอินไตย

Good girl : การถ่ายทำ MV เป็นอย่างไรบ้าง

พี่เบิร์ด : วันนี้เป็นวันแรกรู้สึกเบาตัวมาก เพราะว่า นักแสดงที่ได้มาเล่นด้วยกันเขาโปรทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นใหม่หรือดู๋ นักแสดงตุ๊กตาทองทั้งคู่เลย รู้สึกสบายเพราะว่า เขามีความรับผิดชอบกัน อย่างดู๋เนี่ยจะถาม CARACTER อย่างหนักหน่วง ว่าเล่นเป็นอะไรทำไมถึงต้องเป็นเค้า อย่างใหม่ขอฟังทั้งๆ ที่ใหม่ถ่ายสุริโยทัย เราขอฟังดนตรี , เพลงด่วน เพื่อที่จะได้รู้ แล้วก็ดีใจที่ที่เขามาเล่นให้ แล้วก็ขอบคุณมากๆ อย่างใหม่เนี่ยเขาก็บอกว่ารอมา 15 ปีแล้ว (หัวเราะ) ส่วนดู๋รู้สึกว่าไม่เคยเล่นกับใครคราวนี้ก็มาเล่นให้ THANK YOU SO MUCH

Good girl : พี่เบิร์ดมีส่วนคัดคนมาแสดง MV รึป่าว?

พี่เบิร์ด : แน่นอน ก็ต้องดูคนที่รักงาน รักที่จะเล่นกับพี่ แล้วก็คนที่มีศรัทราต่อกันจะทำงานสะดวก เราจะไม่บังคับใจใคร เขาคงจะไม่มาเล่นเพื่อเงินหรือชื่อเสียงแน่นอน

Good girl : ปิ๊งอะไร ใหม่ กับ ดู๋ ?

พี่เบิร์ด : พอเราร้องเพลงไป เราจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้น เขาต้องเป็นคนที่มีเสน่ห์แล้วก็ดึงดูดอย่างแรงมาก และในขณะเดียวกันมีอะไรหลายๆ อย่างในตัวเขามาก คือ มีทั้งความแข็งความอ่อน ความมั่นใจในตัวเอง ความเต็ม ความคล่องในตัวไปหมด พี่ก็นึกถึงเขา กับอีกคนซึ่งเป็น FAMILY MAN ใครๆ ก็รู้ว่าเขาเป็นคนรักครอบครัว ครอบครัวคุณดู๋ก็ถาวรพรประภามาก เพราะฉะนั้นพอนึกถึงปั๊บ ก็จะนึก ก็จึงแท้แน่เชียวว่าจะต้องเป็นดู๋กับใหม่ ซึ่งเขาเหมาะกันมาก ส่วนคนที่มาสอดแทรกตรงกลางเขาก็ไม่น่าจะเป็นใครนอกจากพี่ (หัวเราะ)

Good girl : แล้วทำไมพี่เบิร์ดต้องอกหักอีกแล้ว ?

พี่เบิร์ด : ดวงมั้ง (หัวเราะ) แต่งเพลงทีไรก็อกหักทุกทีเลย เป็นอย่างนี้ พี่ว่าเป็นเรื่องสามัญประจำบ้านมากกว่าที่ทุกคนก็ต้องเจอ (หันมาถามนักข่าวว่าน้องไม่เคยไปชอบแฟนคนอื่นเขาเหรอ ) ชอบมั๊ย เดี๋ยวก็เจอ เดี๋ยวก็โดน เดี๋ยวก็เจอะ แต่ทุกคนมีความรู้สึกอย่างนี้ได้ทั้งนั้น เกิดเป็นคน แต่ใครจะ CONTROL หรือว่าใครจะควบคุมความรู้สึกของตัวเองด้วยความถูกต้องได้มากน้อยขนาดไหน ความรักไม่เข้าใครออกใคร แต่ (เน้น) ใครจะสามารถระงับแล้ว CONTROL ถึงด้วยกาละเทศะได้มากน้อยแค่ไน ก็แล้วแต่

Good girl : แล้วชีวิตจริงพี่เบิร์ดเป็นยังไง ?

พี่เบิร์ด : กำลังนึกๆ อยู่ Good girl : เจอประสบการณ์แบบนี้บ้างหรือยัง ?

พี่เบิร์ด : เจอ แต่ก็ยังไม่ถึงขนาด เข้าบ้านเขาเลย (หัวเราะ) อันนี้เข้ามาถึงในบ้านเขา อาจจะเป็นด้วยอาชีพมาช่วยเคาตบแต่งเรือนหอนะจ๊ะ ก็เหมือนคนส่งพิซซ่า มาเจอเจ้าของบ้านสวย (หัวเราะ)

Good girl : มีส่วนช่วยคิดแนวเรื่องอย่างไร ?

พี่เบิร์ด : เราทำงานกันเป็นเป็นทีมตลอด ไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ พี่เล็ก พี่คนเขียนเนื้อ คนทำดนตรี เราปีพ.ศ.หลังๆ มานี่ เราจะไม่แยกงานกันทำ เราทุกคนเป็นเมืองขึ้นต่อกัน เราจะพูดในเรื่องเดียวกัน ดนตรี คำร้อง ไปด้วยกัน แม้กระทั้งเรื่อง WHITE BOARD ของไม่อยากจะเรียกว่าเป็น MV พี่ว่ามันจะเป็นเหมือนกับหนังเรื่องนึงทีเดียว แต่แรามีเวลาแค่ 3 นาทีที่จะฉายเท่านั้น เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องกระทัดรัด (พูดผิด) สี่สิบแล้วโว๊ย พูดไม่ค่อยถูก (หัวเราะ) มีส่วนช่วยคิดอัลบั้มนี้ เต้าส่วนเลยจ๊ะ คือเต้าส่วนมีส่วนทุกเม็ด

Good girl : ส่วนในเรื่องนี้พี่เบิร์ดเลือกเองที่จะเป็นสถาปนิกหรือป่าว ?

พี่เบิร์ด : ผู้กำกับเป็นคนเลือกนะจ๊ะ คือเป็นคนที่ชอบอยู่บ้าน ชอบดูโน่นดูนี่ เก็บรายละเอียด คงจะเป็นคนที่ละเอียดอ่อนคนนึง

Good girl : แสดงออกด้วยแววตารึป่าว ?

พี่เบิร์ด : คือมันจะไม่มีอะไรที่จะแสดงออกมากไปกว่านั้น เพราะว่าเราไปรักเขา ก็ได้แค่ตา (นักข่าวแซวว่าถนัดแสดงออกด้วยตา)

Good girl : พี่เบิร์ดเคยเขียนเพลงบ้างรึป่าว ?

พี่เบิร์ด : เรื่องมันเยอะ 3 นาทีไม่พอ พี่เคยแล้วมันเลยขอบไปหมดเลย

Good girl : แนวการเขียนเพลงนี้ ?

พี่เบิร์ด : ถ้าจะพูดถึงความรัก โทษจ๊ะ ปี พ.ศ.นี้ ควรจะเขียนเรื่องอะไรดีก็ใม่ใช่ว่าจะเป็นเด็กสิวเพิ่งขึ้น

Good girl : แล้วทำไมไม่ลองเขียนเอง ?

พี่เบิร์ด : มันไม่พอ ดนตรีมันนิดเดียวเอง ถ้าดนตรีเพลงนึงซัก 2 ชั่วโมง พี่ก็จะเขียน 3 นาทีพี่ย่อไม่เป็นเรื่องมันเยอะ การทำงานเราต้องมาคุยกันว่าจะให้เป็นเรื่องอย่างไร

Good girl : LOOK CONCERT ชุดนี้เป็นอย่างไร ?

พี่เบิร์ด : ก็ง่ายๆ สบายๆ กางเกงยีนส์เสื้อธรรมดา

Good girl : ไม่ยอมแก่เลยนะ

พี่เบิร์ด : เอ๊ะ นี่พลั้งปากออกมาเองนะ ก็ดูแลตัวเอง ถึงเวลาแก่ก็ต้องแก่ แต่ว่าตอนนี้มันยังเป็นอย่างนี้อยู่ จะเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ก็ยังแข็งแรงและก็พร้อมเสมอที่จะทำงาน แล้วก็มีความสุขกับงาน

Good girl : แตกต่างจากชุดอื่นอย่างไร?

พี่เบิร์ด : ไม่ต่างหล่ะจ๊ะ มันจะเอาอะไรไปต่างกันมากมาย เพลงก็คล้ายๆ กัน ดนตรีก็คล้ายๆ กัน ก็คือ ความง่ายที่ทุกคนจะสามารถเข้าถึงจับต้องแล้วก็ร้องได้

Good girl : ถือว่าไม่ค่อยทิ้งช่วงห่างจากอัลบั้มที่แล้ว?

พี่เบิร์ด : จริงๆ พี่ก็คิดอย่างนั้นนะ แต่ที่ไปสำรวจเดือนที่แดือนแล้ว ก็ปี 3 เดือนแน่ะ พี่ว่าพี่ยังส่ายสะโพกอยู่ไม่กี่วันนี่เอง อาจจะเป็นเพราะเราเพิ่งเจอกัน

Good girl : ความคืบหน้าในการแสดงหนังของหว่องกาไว?

พี่เบิร์ด : ยังจ๊ะ สำหรับพี่ยัง แต่ว่าทีมงานเขาเก็บดาราอื่นไป เพราะว่าคิวของพี่ก็คือพี่ต้องเสร็จงานในอัลบั้ม แล้วพี่ถึงไป

Good girl : ถ่ายในเมืองไทยหรือป่าว?

พี่เบิร์ด : คิดว่า ช่วงแรกถ่ายในเมืองไทยแน่นอน ภายในเดือนธันวาคม

Good girl : ทำไมถึงเลื่อนถ่ายหนัง ?

พี่เบิร์ด : ก็ติดงานในอัลบั้ม แล้วก็เฟวองออกเทป , เหลียงเฉาเหว่ยเขาก็ติดๆ กันหมด แต่ยังไงก็แล้วแต่ จะต้องขมวดปมให้ได้ ภายในกุมภา , มีนา ซึ่งก็ยังไม่ถึงคิวของพี่

Good girl : คำถามสุดท้าย ทำไมใช้ผู้หญิงในแต่ละอัลบั้มเปลื้องจัง ?

พี่เบิร์ด : น้องๆ พี่มีเยอะ พี่ว่าหลายๆ คน ความตั้งใจในการทำงาน ของการเขียนเนื้อ การทำดนตรีมันผ่านกรอง จากสมองของคนที่ตั้งใจทำงานกันแล้วทั้งนั้น เพราะฉะนั้นคนที่จะมาช่วยกันระบายให้มันเป็นสี เป็นภาพ อย่างที่เราคิดกัน เชื่อในภาพเดียวกัน เพราะฉะนั้นหลายๆ คน น้องๆ พี่ที่อยากมาร่วมงาน ตรงนี้ก็มีเยอะนะจ๊ะ เพราะฉะนั้น ใครอยากมาเล่นก็มา คือ ถ้าเราเล่นซ้ำได้ก็จะเป็น ปิ่น มาแน่นอน , แอนก็มา ทุกคนก็มา ทุกคนก็จะสนุกแน่น่อน แต่ว่าใหม่นี่เค้ารอมา 15 ปี แล้ว (หัวเราะ) เลยให้เขาก่อน

และแล้วก็ต้องรีบจบบทสนทนากันเพียงเท่านั้น เพราะว่าถึงคิว ที่พี่เบิร์ดต้องเข้าฉากซะแล้ว เอาเป็นว่า แฟนเพลงของพี่เบิร์ดก็คงจะได้ฟัง ได้เห็นกันแล้วนะคะ กับอัลบั้มล่าสุด” ตู้เพลงสามัญประจำบ้าน”