สัมภาษณ์ พัณนิดา เศวตาสัย

พัณนิดา เศวตาสัย

logo_name

สกู๊ปพิเศษของเรางวดนี้ เป็นคิวของศิลปินหญิงเสียงดีของวงการเพลงบ้านเรา พี่เอ๋ พัณนิดา เศวตาสัย พูดถึงชื่อนี้แล้ว ใครต่อใครคงต้องนึกถึงเพลงเดียวดาย กับฉากสุดท้าย ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะทั้ง 2 เพลงนี้ เป็นเพลงที่สร้างชื่อเสียงอย่างมากมายให้กับพี่เอ๋ ยังไม่นับรวมถึงเพลงอื่นๆ อีกหลายเพลงที่สร้างความประทับใจ และยังคงอยู่ในความทรงจำของแฟนเพลงในยุคเมื่อเกือบ 20 ปีที่ผ่านมา แต่ก่อนอื่น เรามาฟังพี่เอ๋เล่าให้ฟังกันก่อนดีกว่า

พัณนิดา เศวตาสัย

แรกเริ่มเดิมทีนั้น พี่เอ๋มีแรงจูงใจ หรือมีใครชักนำเข้ามาสู่วงการได้ยังไงคะ

ตอนนั้นพี่เอ๋ยังเรียนอยู่ชั้นม.ศ. 1 โรงเรียนราชินี เป็นช่วงที่โรงเรียนต้องการหาทุนเพื่อสร้างห้องสมุด ทางโรงเรียนก็เลยตั้งวงโฟล์คซองขึ้นมา เลือกเอาเพลงแนวเก่าๆ มาร้อง แล้วก็อัดเทปขายในโรงเรียน เป็นการอัดเทปที่ระลึกเนื่องในวันครบรอบ 75 ปีของโรงเรียน ตัวพี่เอ๋เองก็เป็นนักร้องนำของวง พอถึงเวลามีงานโรงเรียน ก็จะมีโรงเรียนในละแวกเดียวกันเข้ามาเที่ยวในงานด้วย วงโฟล์คซองเราก็ต้องออกแสดงด้วย ทีนี้ก็เลยดังกันในหมู่โรงเรียนด้วยกัน พอขึ้นม.ศ. 2 วงดนตรีนี้ก็ออกเทปอีกชุดนึง คราวนี้เป็นการหาทุนให้หอสมุดวชิราวุธานุสรณ์ จุดเริ่มต้นเรียกว่าจะเริ่มจากตรงนี้ก็ได้นะ เพราะว่า พวกนักเรียนก็ส่งเทปชุดที่ระลึก 75 ปีไปให้คุณระย้า ซึ่งตอนนั้นจัดเพลงสากลอยู่ ก็ให้เลือกเปิดเพลงสากลจากเทปชุดนี้ด้วย เป็นการโปรโมตงานโรงเรียนด้วย ซึ่งคุณระย้าก็เต็มใจโปรโมตงานนี้ให้ด้วย พอคุณระย้าได้ยินเสียงนักร้อง ก็เกิดความสนใจ เอาเทปไปปรึกษาคุณทวีพงษ์ มณีนิล ก็ได้รับคำตอบมาว่าผ่าน เสียงดี เป็นนักร้องได้ คุณระย้าก็เลยติดต่อกลับมาจะให้ออกเทปเลย ปรากฎว่า คุณพ่อไม่อนุญาต บอกว่ายังเด็กอยู่ ต้องเรียนหนังสือก่อน เรื่องอัดเทปในตอนนั้นก็เลยต้องพับไว้ก่อน

แค่จุดเริ่มต้น ก็ได้เห็นกันแล้วว่า พี่เอ๋มีแววที่จะเป็นนักร้องอาชีพตั้งแต่ยังเด็ก แต่เมื่อสถานการณ์ไม่อำนวยในตอนนั้น ทำให้พลาดโอกาสไป หลายคนคงกำลังอยากรู้ว่า แล้วเมื่อไหร่ล่ะที่โอกาสก้าวเข้าสู่การเป็นนักร้องของพี่เอ๋ได้เริ่มขึ้น ซึ่งพี่เอ๋ก็ให้ความกระจ่างมาว่า

โอกาสที่จะได้ร้องเพลงตามที่ชอบน่ะ มาถึงเอาตอนที่อยู่ปี 1 ธรรมศาสตร์ ตอนนั้นคุณครูลดาวัลย์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง และควบคุมการซ้อมของวงโฟล์คซองโรงเรียนราชินี จะแต่งเพลงไว้เยอะ เป็นคนแต่งเพลงเดียวดายด้วยนะ ก็จะคัดมา 10 กว่าเพลงให้ร้อง ทำเดโม แล้วก็มีดีเจคนนึงสนิทกับครูลดาวัลย์ เอาเดโมเนี้ยไปหาผู้สนับสนุน ก็ไปเจอเอาคุณระย้าเข้า ทีแรกคุณระย้ายังบอกเลยว่า คุ้นๆ เสียงนี้นะ แต่ก็สนใจ และตอบรับที่จะทำเพลงด้วย ตอนนั้นคุณพ่อก็อนุญาตให้ทำเพลง แล้วย้ำด้วยว่าให้ทำชุดเดียวนะ ก็รู้สึกดีใจว่า จะได้เข้าห้องอัดแล้ว เพลงชุดแรกนี่ก็มีเพลง เดียวดาย ด้วย ปรากฎว่า เกิดดังเปรี้ยงปร้างเลย ก็เลยได้ทำมิวสิควิดีโอเพลงนี้ด้วย

ตามปกติของการเป็นนักร้อง เมื่อออกผลงานแล้ว ใครต่อใครก็หวังที่จะได้ออกคอนเสิร์ต เพื่อจะได้โปรโมตผลงานของตัวเอง โดยเฉพาะในยุคนั้น เวทีโลกดนตรีเป็นเวทีที่ศิลปินแต่ละคนใฝ่ฝันที่จะได้แสดง ณ เวทีแห่งนี้ ซึ่งพี่เอ๋ก็สร้างความประหลาดใจให้กับพวกเรา ด้วยการพูดถึงเรื่องนี้ว่า

พัณนิดา เศวตาสัย

สำหรับพี่เอ๋เองนั้น กลับไม่เลย ไม่เคยคิดที่จะไปขึ้นเวทีคอนเสิร์ต เป็นนักร้องคนเดียวที่ไม่ยอมขึ้นเวทีคอนเสิร์ตเลย ไม่ชอบด้วย จริงอยู่ว่าชอบที่จะร้องเพลงออกอัลบั้ม แต่ไม่ได้นึกอยากเป็นนักร้องเต็มตัว ก็เลยไม่ค่อยได้เห็นพี่เอ๋ตามสื่อทีวี นอกจากแค่ในมิวสิควิดีโอเท่านั้น

อย่างนี้แล้ว ผลงานชุดต่อๆ ไป ยังมีออกมาเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอหรือเปล่า และได้รับการตอบรับเหมือนชุดแรกมั้ยคะ

ทิ้งห่างจากชุดแรกประมาณปีนึง ถึงได้ออกอัลบั้มชุดที่ 2 ออกมา ชื่อชุด หลงรักเธอ ซึ่งชุดนี้ก็จะเหมือนกับว่าถูกคนรอบข้างผลักดันให้ร้องเพลงแล้ว เพลงในอัลบั้มชุดนี้ ก็จะหยิบเอาเพลงเก่าบ้าง เพลงในละครมาร้องบ้าง ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ทำให้เสียความมั่นใจไปเหมือนกัน จากช่วงเวลานี้ ก็เตรียมตัวจะไปเรียนเมืองนอก ก็เลยคิดว่าจะไม่ร้องแล้ว แต่ก็ถูกคะยั้นคะยอว่าให้ทำเถอะ ก็ยอมทำ ชุดนี้มีชื่อว่า คิดถึงจัง แล้วเค้าก็เอาผลงานเพลงไปออกในรายการวิทยุที่พี่ฉอดจัดอยู่ จะว่าไปแล้ว ชุดนี้จะมีเพลงเพราะหลายเพลงนะ แล้วทางค่ายๆ ก็ตั้งใจโปรโมตเพลง รักไร้ค่า แต่เพลงที่ดังกลับเป็นเพลง ฉากสุดท้าย ซึ่งจริงๆ แล้วก็อย่างที่บอกว่า ไม่ชอบโปรโมตผลงานเพลงเอาเลย พออัดเสียงเสร็จ ก็ออกเดินทางเลย ทั้งๆ ที่วันเดินทางยังถ่ายวิดีโอไม่เสร็จด้วยซ้ำ ไม่ได้ติดตามเลยว่าผลตอบรับต่ออัลบั้มชุดนี้เป็นยังไง แต่ก็มาแปลกใจที่ช่วงนั้น มีจดหมายจากแฟนเพลงตามไปถึงเมืองนอกเลย แต่ละฉบับก็พูดถึงแต่เพลงชุดนี้ว่าเพราะมากบ้าง ชอบมากบ้างล่ะ ก็เลยได้รู้ว่าเพลงชุดนี้ได้รับผลตอบรับดีมาก ถึงกับมีโทรศัพท์จากสื่อมวลชนทางนี้ติดต่อสัมภาษณ์กันทางโทรศัพท์เลย พอซัมเมอร์ปุ๊บ คุณระย้าก็ตามตัวกลับมา บอกว่าไม่กลับไม่ได้แล้ว ต้องออกงานโชว์ตัวบ้าง ช่วงนั้นกลับมาเมืองไทย 1 เดือนนี่ ออกงานทุกวัน แล้วก็อัดเทปชุดใหม่ด้วย คือ ชุดข้ามฟ้ามาฝาก ขากลับไปเรียนต่อนี่ เรียกว่า ขึ้นเครื่องก็ต้องนอนตลอดเลย เหนื่อยมาก ตอนนั้นถึงกับออกปากว่า ไม่ไหวแล้ว ไม่ร้องแล้วล่ะ พอหลังจากออกเทป 4 ชุดนี้แล้ว ก็ออกอัลบั้มรวมฮิต 1, 2 2 ชุดนี้นี่ยังขายได้จนป่านนี้เลยนะ

pic4

พี่เอ๋ยังลำดับถึงผลงานของตัวเองชุดต่อไปให้ฟังอีกว่า

ถึงตอนนี้อัดเพลงไทยไป 4 ชุดแล้ว ก็รู้สึกเบื่อ อยากเปลี่ยนแปลงบ้าง เลยขอทำเพลงสากล ซึ่งก่อนจะทำก็มีบางคนสบประมาทเอาเหมือนกันว่าแน่ใจแล้วเหรอว่าจะทำได้ดี ซึ่งตัวพี่เอ๋เองก็มีความมั่นใจอยู่แล้วว่าจะทำได้ ก็เลยได้ทำออกมาเป็นชุด Back to the old days เป็นเพลงสากลโฟล์คซอง เลือกเอาเพลงของ Peter Paul Mary ปรากฎว่า ผลตอบรับค่อนข้างดี ก็เลยรอดตัวไป แล้วหลังจากนั้น ก็เลยทำเพลงสากลตามออกมาอีก 2 ชุดพร้อมกันเลย คือ IN THE MOOD I, II หลังจากทำเพลงสากลมาซัก 3 ชุด ทางค่ายก็มาคุยว่า เพลงสากลน่าจะพอก่อนนะ เดี๋ยวแฟนๆ เพลงจะลืมซะ ก็เลยหันกลับมาร้องเพลงไทยอีก เพลงที่ออกมาก็จะเป็นแนวเดิมๆ ล่ะนะ เป็นเพลงแต่งใหม่ทั้งหมดชื่อชุด ใจสองดวง กับ เติมเชื้อไฟ แต่ผลตอบรับของเพลงทั้ง 2 ชุดนี้ก็ยังไม่สามารถเทียบเท่าเพลง เดียวดาย กับ ฉากสุดท้าย ได้ พี่เอ๋ก็เลยมาคิดว่า ถ้ายังอยู่อย่างนี้ต่อไป คงจะไม่ดีนักเป็นแน่ ถ้าคิดจะร้องเพลงให้ได้ดี ตัวพี่เอ๋เองก็น่าจะมีส่วนร่วมมากกว่านี้ ทั้งในเรื่องการเลือกเพลง และในเรื่องการตัดสินใจในเพลง เพราะเพลงที่พี่จะร้องนี่ ถ้าตัวพี่ไม่ชอบเพลงแล้ว คนอื่นจะชอบได้ไง ตอนนั้นเลยตัดสินใจหยุดทำเพลงซะก่อน คือเป็นการรอที่จะได้เพลงที่ถูกใจด้วย แต่ก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ นะ ยังมีงานประจำที่ทำอยู่น่ะ รอไปรอมากินเวลาไปถึงปี 44 ก็ 8 ปีแล้ว ช่วงเวลานั้น เดินไปตามถนน หรือที่ไหนก็ตาม เจอใครที่จำได้ก็จะมีแต่คำถามว่า ไม่ออกเทปแล้วเหรอ ไม่ร้องเพลงแล้วเหรอ ก็เลยมาคิดว่า ก็ยังมีคนอยากฟังเพลงของเราอยู่นะ แล้วช่วงนั้นพี่เอ๋ก็กำลังชอบเพลงแนวแจ๊ส เลยไปปรึกษาคุณระย้าว่า ถ้าจะทำเพลงไทยเก่าๆ ในแนวแจ๊สนี่จะเป็นยังไง จะเพราะมั้ย พอดีมาเจอครูที่สอนกีตาร์เมื่อตอนเด็กๆ ด้วย เลยได้ปรึกษากัน พอเห็นว่าครูเค้าทำได้ ก็เลยให้ครูลงมือทำเลย ใช้เวลาประมาณเกือบปีก็ทำเสร็จ ออกอัลบั้มมาเป็นชุดที่ 10 ใช้ชื่อชุดว่า ฟ้าเดียวกัน จะเป็นเพลงเก่าๆ ทั้งหมดเอามาใส่ทำนองแจ๊ส หลังจากที่ออกอัลบั้มชุดนี้แล้ว ก็เริ่มสนุกกับการร้องเพลงอีกครั้งแล้ว ยิ่งตอนนี้ก็รู้จักคนมากขึ้น ได้มารู้จักกับเพื่อนของเพื่อนที่ทำงาน คือคุณนิติธร มารู้ว่าเป็นคนแต่งเพลง คนพิเศษ ก็เลยมีโอกาสพูดคุยให้มาช่วยทำเพลงให้ เราก็มีการพูดคุยกันถึงความต้องการว่าต้องการเพลงแนวไหน ยังไงบ้าง ตั้งแต่เริ่มคุยกันมานี่ก็ 2 ปีแล้ว ทำเสร็จไปแล้ว 4 เพลง แต่ทั้ง 10 เพลงนี่ เป็นเพลงใหม่ทั้งหมด เพราะด้วย

pic3 พัณนิดา เศวตาาสัย

ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ร้องเพลงมา ถึงแม้จะหยุดไปบ้างเป็นบางช่วง จะเห็นได้ว่า พี่เอ๋จะอยู่ภายใต้การดูแลของคุณระย้า ค่ายรถไฟดนตรีอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งๆ ที่มีบางครั้ง ก็มีค่ายเพลงอื่นๆ ซึ่งเป็นค่ายใหญ่กว่ามาติดต่อที่จะทำเพลงให้ แต่พี่เอ๋ก็ไม่คิดที่จะเปลี่ยนใจ โดยมีเหตุผลว่า

อันดับแรก พี่เอ๋จะถือว่าคุณระย้า และค่ายรถไฟดนตรีนี้ เป็นค่ายแรกที่ทำให้มีโอกาสเป็นนักร้องเต็มตัว เลยไม่คิดที่จะย้ายค่าย และด้วยเหตุผลนี้ทำให้คุณระย้า และผู้ใหญ่ทางค่ายก็พอใจ ออกปากว่า ถ้าพร้อมจะทำเพลงเมื่อไหร่ก็บอก เรียกว่า เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เหตุผลอื่นก็คือ พี่เอ๋ไม่ต้องการเป็นนักร้องอาชีพ ยังต้องการที่จะทำงานประจำอยู่ ร้องเพลงนี่ก็จะเป็นงานอดิเรก กับทางค่ายรถไฟดนตรีนี้ ก็จะมีการคุยกันตั้งแต่แรกแล้วว่า เราต้องการแค่ไหน ทางคุณระย้าอาจจะโปรโมตเพลงตามวิทยุ ตามสื่อทีวีก็เป็นมิวสิควิดีโอ แต่เค้าจะรู้ว่าพี่เอ๋ไม่ต้องการใช้ตัวเองโปรโมต หรือออกคอนเสิร์ต ซึ่งค่ายอื่นก็คงรับไม่ได้เหมือนกัน

อยากให้พี่เอ๋บอกความรู้สึกที่มีต่อเพลง เดียวดาย กับ ฉากสุดท้าย

จนบัดนี้ ได้ร้องเพลงทั้ง 2 เพลงนี้มานับพันครั้งได้แล้วมั้ง ไม่ว่าจะไปร่วมงานไหน หรือออกงานไหน ไม่ว่าจะต้องร้องเพลงซักกี่เพลง แต่ที่ขาดไม่ได้ก็คือ จะต้องร้องเพลงเดียวดาย กับ ฉากสุดท้าย นี้ด้วย ไม่อย่างนั้น ก็เหมือนไม่ใช่พัณนิดาตัวจริง หลายคนอาจจะนึกว่า รู้สึกเบื่อกับการร้องเพลงนี้มั้ย พี่เอ๋ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ตัวพี่เอ๋เองจะรู้สึกเบื่อกับ 2 เพลงนี้ไม่ได้เลย เพราะ 2 เพลงนี้ถือว่ามีบุญคุณกับพี่เอ๋มาก พี่ยังรำลึกถึงบุญคุณของแฟนเพลงอยู่เสมอ โดยเฉพาะ ชุด คิดถึงจัง ที่มีเพลง ฉากสุดท้าย นี่ทำให้พี่มีเงินจนเรียนจบปริญญาโทมาได้

ปัจจุบันพี่เอ๋ ทำงานที่ไหน ตำแหน่งอะไรคะ

งานปัจจุบัน ทำงาน ตำแหน่ง พนักงานจัดหาและค้าปิโตรเลียม ที่ ฝ่ายการค้าน้ำมันสำเร็จรูป บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ค่ะ สามารถอีเมล์มาคุยกับพี่ได้ที่ pannida.s@pttplc.com

วันนี้คงขอรบกวนพี่เอ๋เท่านี้นะคะ ส่วนใครที่ยังคิดถึงพี่เอ๋ พัณนิดาอยู่ ก็คอยติดตามผลงานใหม่ในเร็วนี้นะคะ สวัสดีค่ะ

มอลลี่ ผู้สัมภาษณ์

พี่เอ๋ พัณนิดา ได้ฝากลายมือมาทักทายแฟนๆเวบบ้านเพลงเก่าและแฟนเพลงทุกคนนะคะ

พัณนิดา เศวตาสัย

One comment to สัมภาษณ์ พัณนิดา เศวตาสัย

  • Avatar ดร.นภดล กลิ่นทอง  says:

    คงจำกันได้นะครับคอนเสริตเมื่อคืน ผมเป็นเพื่อนคุณอนุรัฐ ประดิษฐ์งามที่คุณถามหาเราเคยเล่นดนตรีด้วยกันตอนเรียนปริญญาตรีที่ ราชมงคลเทเวศร์ประมาณ ปี 2526-2528 เคยเจอกันที่ไทยประมาณ 2 ครั้งครับ ปีนี้คาดว่าจะมาพบปะสังสรรกับเพื่อนร่วมรุ่นช่วงเดือนสิงหาคมนี้ครับ

Leave a reply

You may use these HTML tags and attributes: <a href="" title=""> <abbr title=""> <acronym title=""> <b> <blockquote cite=""> <cite> <code> <del datetime=""> <em> <i> <q cite=""> <s> <strike> <strong>

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.