รำลึกความทรงจำ โดย…ป้านุช
ย้อนหลังไปสัก 20 กว่าปีที่ผ่านมา ในยุคนั้นมีวงดนตรีหรือนักร้องเดี่ยวเกิดขึ้นมากมายราวกับ ดอกเห็ด ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับยุคนี้มากมายนักจะแตกต่างกันเพียงแค่แนว ดนตรีละ กระมัง ยุคที่ว่า..ยุคนั้น…ก็ยุคของคนรุ่นดิฉัน รุ่นที่ถูกใคร ๆ ในบ้านเพลงเก่า เหมาให้เกียรติ เป็น “ป้า” กันอย่างพร้อมเพรียงไปหมดทั้งบ้าน
ท่ามกลางการเกิดขึ้นของวงดนตรีชั้นนำมากมายในขณะนั้น มีวงดนตรีวงหนึ่งซึ่ง ใช้ลีลาการ ประสานเสียงร้อง และการประสานเสียงเครื่องดนตรีอันอ่อนหวาน นุ่มละมุน ค่อยๆ ดังแทรกแหวก วงการเพลงออกมาอย่างสง่าผ่าเผย “ รักที่แสนหวาน รักที่แสนหวาน รักฉันนั้นเพื่อเธอ” คงไม่มีใครในยุคนั้น จะไม่รู้จัก เพลง ๆ นี้ และป้าเชื่อว่าเนื้อเพลงท่อนนี้ ยังหยั่งลึก ติดตรึงอยู่ใน ความทรงจำของใคร หลาย ๆ คนมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ ใช่ค่ะ วงดนตรีที่ป้าประทับใจจะเป็นอื่นใด ไปไม่ได้ นอกจาก “วง พิงค์แพนเตอร์” เจ้าของฉายา “เสือสีชมพู” แห่งวงการเพลงนั่นเอง
คงจะไม่กล่าวถึงที่มาที่ไปของวงดนตรีวงนี้โดยละเอียดอีกเพราะเรา ๆ ท่าน ๆ ก็ทราบกันดีอยู่แล้ว ว่าหลังจากวงซิลเวอร์แซนด์ สลายวง คุณวิชัย ปุญญะยันต์ หนุ่มน้อยสุด จากวง ซิลเวอร์แซนด์ ก็หอบ ความฝัน ความรัก ในการร้องเพลงและเล่นดนตรี มารวบรวมสมัครพรรคเพื่อน ร่วมกันก่อตั้ง วงพิงค์แพนเตอร์ขึ้นมา ประกอบไปด้วยณรงค์ อับดุลราฮิม, อดุลย์ วงษ์แก้ว, กรองทอง ทัศนพันธ์, ปนิตา ทัศนพันธ์, ประมาณ บุษกร, ประจวบ สินเทศ, มนู ทองดีมีชัย, เจน เฉลยกาย, ธนะศักดิ์ ไวอาสา รวมไปถึง นักร้องคู่ขวัญ คุณ โสรยา ศิรินันท์ เจ้าของเสียงเพลง หวาน “รอยเท้าบนผืนทราย”
ความประทับใจของป้า สำหรับวงดนตรีวงนี้ เป็นความรู้สึกส่วนตัวที่ไม่เคยบรรยายให้ใครฟัง มาก่อน คงจะเป็นเรื่องของการแสดงดนตรีของทั้งวง ทุกครั้ง จะเห็นความพร้อมเพรียง ของนักดนตรี การให้เกียรติแก่ผู้ชม ผู้ฟัง และเหล่าแฟนเพลง กล่าวคือ การแต่งกายจะแต่งชุดสูท หรือชุดสากล เหมือนกันทั้งวง อาจแตกต่างในเรื่องของสีสันบ้างเท่านั้น เราจะไม่มีทางได้เห็น การแต่งกายแบบ ขอไปที หรือ ขอเป็นอาชีพ เสื้อขาด กางเกงแหก รองเท้าแยกเขี้ยว เหมือนใน สมัยนี้ ที่บางทีนึกว่า นักดนตรี เพิ่งเดินลงมาจากที่นอนแล้วก็มาร้องมาเล่นดนตรีให้เราฟังกัน ไม่ว่าจะแสดงคอนเสิร์ต เล็กใหญ่ ถ่ายทอดออกโทรทัศน์ หรือแค่งานการกุศลเล็ก ๆ รับเชิญร่วม แสดงในคอนเสิร์ตกับวงอื่น ๆ นักร้องอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้บางครั้ง อาจได้เล่นเพียงเพลงเดียว หรือสองเพลงเท่านั้น แต่ เราจะได้เห็นได้พบกับการแสดง การเตรียมพร้อมที่เต็มร้อยทุกครั้ง
พูด ถึงงานการกุศล อดที่จะเล่าให้ทุกท่านทราบไม่ได้ว่าบ่อยเหลือเกิน ที่ทางวงพิงค์แพนเตอร์ ได้รับเชิญให้ไปร่วมแสดงในงานการกุศล ทั้งที่ไปเป็นวง หรือไปเฉพาะคุณวิชัย นักร้องนำของวง ท่านเดียว หรือแม้แต่ไปเล่นเป็นวงดนตรีแบ๊คอัพให้กับศิลปินท่านอื่น ทางวงก็ให้ความร่วมมือ ด้วยดีแทบจะทุกคำเชิญ ซึ่งก็อย่างที่ทราบ ๆ กันอยู่ว่าหลายงานเป็นงานการกุศลจริง ๆ (ก็เล่นฟรีนะสิคะ แหม ทำเป็นอ่านแล้วงงนะ) และยังมีอีกหลายครั้งที่ คุณวิชัย ถึงกับเป็นคนต้นคิดออก เรี่ยวออกแรง จัดการแสดงดนตรี เพื่อหาเงินช่วยเหลือเองด้วยซ้ำไป อย่างกรณี ของคุณ ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา ที่เกิดเจ็บไข้ได้ป่วย ก็ได้มีการจัดการแสดงนำเงินไปช่วยเหลือเป็นต้น
ย้อนกลับมากล่าวถึง การทำงานของวงเสือสีชมพู แน่นอนว่า ความ แตกต่างจากวงดนตรีอื่น ๆ ที่โดดเด่นคือ การประสานเสียงร้องของนักร้องในวงทุกคน ประสานกันได้กลมกลืน หวานจับใจ กอปรกับ การอะเร้นจ์เสียงดนตรี จากฝีมือที่ คนในวงการเพลงต่าง ยอมรับ และยกย่องว่า อยู่ในระดับ แนวหน้าคนหนึ่งของวงการ คุณวิชัย สามารถทำออกมา ได้ดีเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นผลงานของวงเอง หรือ ผลงานของศิลปินท่านอื่น ที่ได้หยิบยกมาขับมา ร้องกันใหม่ ก็ทำได้ดีไม่มีที่ติ ถึงขนาดผู้หลัก ผู้ใหญ่ในวงการบางท่าน เคยกล่าวไว้ว่า พิงค์แพนเตอร์ นำเพลงของศิลปินเหล่านั้นมาทำได้ดีกว่า ต้นฉบับเดิมเสียด้วยซ้ำไป บ่อยครั้ง เราจะพบว่า มีการนำวงออเคสตร้า มาร่วมบรรเลง ประสานไป ด้วย ในผลงานหลาย ๆ ชิ้นที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่า ความสามารถในการเรียบเรียงเสียง ประสาน ของคุณวิชัย นั้นเยี่ยมจริง ๆ เพลงทุกเพลงที่ถ่ายทอดออกมา จึงทั้งหวาน ทั้งนุ่ม ฟังสบาย เสียเหลือเกิน อีกทั้งสิ่งหนึ่งที่ประทับใจ แม้บางคนอาจมองว่า เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แต่กับบางคน เป็นเรื่องปลาบปลื้มเหลือเกินก็คือ ไม่ว่า ทางวงจะนำผลงานการแต่งเพลง หรือแต่งทำนอง ของผู้แต่ง ท่านใดไปแสดง จะมีการกล่าวประกาศให้ผู้ชมผู้ฟังทราบด้วยเสมอ สิ่งนี้ ถือเป็นการให้เกียรติแก่้เจ้าของ ผลงานการประพันธ์เหล่านั้นอย่างน่านับถือ
สิ่งละอันพันละน้อยเหล่านี้หละกระมัง ที่หนุนส่งให้ วงพิงค์แพนเตอร์ ประทับอยู่ในจิตใจของป้า มาช้านาน และไม่ใช่ป้าคนนี้คนเดียวแน่นอน ที่ประทับใจในวงดนตรีวงนี้ ป้าเชื่อว่า..ยังมีแฟนเพลง อีกหลาย ต่อหลายคน ที่มีความคิดและมีความรู้สึกแบบเดียวกันนี้ เพราะอะไรนะหรือคะ เพราะ ทุกครั้งที่ไปดูคอนเสิร์ต ของวงพิงค์แพนเตอร์ ส่วนหนึ่งของผู้ชมจะคุ้นหน้าคุ้นตาเหลือเกิน เพราะจำ ได้ว่า เคยมาดูมาชมด้วยกันหลายต่อหลายคราว จนพอจะจำหน้ากันได้ คงแบบที่เค้าเรียกกันว่า แฟนพันธุ์แท้ นั่นแหละค่ะ
หาก ใครอยากจะพิสูจน์ให้เห็นกับตาละก็ ขอบอกว่าไม่ยากหรอกค่ะ อีกไม่ช้า ไม่นานนี้ จะมีการ แสดงคอนเสิร์ตแบบเต็มวงเต็มโชว์ของ วงพิงค์แพนเตอร์ อีกครั้ง ลองไปพิสูจน์ด้วยตาคุณเองนะคะ แล้วถ้าเจอ ป้า คนนี้ ก็สะกิดเรียกกันมั่งนะคะ สวัสดีค่ะ