ความแปลกใหม่ของอัลบั้ม Real TT
ทาทาได้เป็น Co-Producer ได้เข้าไปร่วมงานมากขึ้นจากที่เคยเป็นเพียงคนร้องอย่างเดียว ชุดนี้ได้ไปฟังเพลง เลือกเพลง เนื้อร้องและตัดสินใจเลือกเพลงเองทั้งหมด ตัวทาทาเองอยากทำอยู่แล้ว และพี่เบิร์ด (กุลพงษ์ บุญนาค) ก็เปิดโอกาสให้ทาทาได้ทำงาน ต้องของคุณพี่เบิร์ดที่ไว้ใจค่ะ อีกอย่างหนึ่งคือเนื้อเพลงที่ชุดนี้ค่อนข้างตรงไปตรงมา อย่างเพลง “อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน”
อุปสรรคของการทำงาน
คือ แรกๆทาทาตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกเพลงไหน จนพี่เบิร์ดต้องบอกว่าให้เลือกสักที เพื่อคนอื่นจะได้ทำงานต่อได้ ชุดนี้ทาทาทำเพลงเองทั้งหมด 10 เพลง แต่ให้พวกพี่ๆที่ทำการตลาด เลือกว่าจะใช้เพลงไหนโปรโมท
เพลง Super man Super fan
เป็นเพลงสนุกๆ เนื้อหาเข้าใจง่าย MV ทาทาเล่นเอง จะออกแนวแก่นๆเหมือนลูกสาวกำนันเลย (หัวเราะ) ตอนถ่าย MV ก็สนุกมาก ทาทาเพิ่มมุขเองด้วย ทุกอย่างออกมาสนุกเป็นตัวของทาทามากที่สุดค่ะ
Concept ของ Real TT
เพลงเร็วจะสนุก ส่วนเพลงช้าจะสวยค่ะ คือจะเป็นเพลงที่ร้องสื่ออารมณ์ค่ะ เนื้อเพลงเป็นแบบตรงไปตรงมา อย่างเพลง “อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน” ,”ผิดไหมที่ไม่กลับไปรักเธอ”,”ข่าวลือ” เป็นต้นค่ะ
มีคนมองว่าชุดนี้กลับไปเหมือนชุดแรก
จริงๆแล้วการที่เราอยู่วงการนี้ ถ้าเราไม่ทำอะไรแปลก ให้ฉีกแหวกแนวแล้วมันขายไม่ได้ นั่นคือกลยุทธ์ในการขายของวงการเพลง ถ้าคนมองว่าจะกลับไปเหมือนชุดแรกคงไม่เหมือน เพราตอนนี้ทาทาโตแล้ว ชุดแรกจะแสดงความเป็นตัวของตัวเองในวัย 14 พอมาชุด”ช็อต” ก็โตขึ้น ชุดนั้นต้องมีการบอกแฟนเพลงที่ติดภาพเดิมของทาทา ว่าทาทาโตแล้วนะ ตอนนั้นมีการคุยกันในกลุ่มที่ทำอัลบั้มว่า น่าจะมีการบอกคนฟังว่าเราโตแล้ว ก็เลยต้องมีเพลงที่แรงๆ ภาพที่แรงๆแบบที่สามารถให้คนฟังลืมภาพเก่าๆของเราให้ได้ แต่พอมาตอนนี้ คนฟังรู้แล้วว่าเราโตแล้ว ตอนนี้เราจะเป็นอะไร มันก็เป็นเรื่องของเราแล้ว เป็นที่มาของชื่ออัลบั้มชุดนี้ว่า Real TT คือความเป็นตัวตนจริงๆของทาทาค่ะ ถ้าเรามองตลาดเพลงทั่วโลกตอนนี้ เราจะเห็นว่า “ความจริง” ขายได้ดีที่สุด ลองมอง Avril Lavigne สิ ตัวจริงเค้าก็แต่งตัวอย่างนั้น ก็ขายอย่างนั้น คนก็ชอบ
ทาทามองว่าศิลปินแต่ละคนมี art อยู่ในตัวเอง มี charactor อยู่แล้ว ก็เอาจุดนั้นมาขาย
การแต่งตัว
ทาทาชอบการแต่งตัวที่เป็นตัวของตัวเอง ยกเว้นตอนเล่นคอนเสิร์ตนะคะ เพราะคอนเสิร์ตเป็นอะไรที่ต้องพิเศษ เป็นการแสดงอย่างนึง ต้องแหวกแนวหน่อย แต่พูดถึงเวลาปกติทาทาก็จะใส่เสื้อ-กางเกงธรรมดา ชุดนี้ก็เป็นแบบธรรมดา
แนวการร้อง
เป็นแนวเดิมที่ทาทาถนัด คือ pop-dance เพราะทาทาจะไม่ร้องเพลงอะไรที่ทาทาไม่ถนัด ทำได้ไม่ดี ทาทาไม่ทำ ทาทาคิดว่าคุนดูอยากดูความเป็นธรรมชาติของศิลปินมากที่สุด เพราะเค้าจะรู้สึกว่าเค้าจับต้องเราได้ คนดูเค้าจะตัดสินเองว่าเค้าจะชอบศิลปินคนนี้หรือไม่ การที่เราไปหลอกลวง โดยที่ตัวจริงเราไม่ได้เป็นอย่างนั้น ถ้ามีคนมาเจอ จะเป็นข่าวเปล่าๆ
หายไปนาน กลัวแฟนเพลงลืมไหม
ทาทาไม่กลัวแฟนเพลงลืมนะ ทาทามั่นใจว่าแฟนเพลงจำทาทาได้ (ยิ้ม) ที่หายไป ก็ไปทำเพลงชุดนี้แหละค่ะ แต่ไม่ได้รีบร้อน ทาทาไม่ชอบทำงานแบบอุตสาหกรรม แบบ 2 เดือนออกเทป ทาทาทำงานแบบสบายๆค่ะ
ความคาดหวัง
ทาทาไม่อยากคาดหวังอะไร เพราะทาทาเป็นคนที่ถ้าหวังจะหวังสูงมาก กลัวว่าถ้าไม่ได้ตามที่หวังแล้วจะเสียใจ ทาทาทำดีที่สุดแล้ว
ทาทาถือว่าโชคดีกว่าคนอื่นที่ได้มาทำงานตรงนี้ ตอนนี้ทาทาเลยไม่มีจุดมุ่งหมายอะไร เพราะผ่านจุดมุ่งหมายที่สำคัญๆในชีวิตมาแล้ว นั่นคือ การเป็นนักร้อง ออกอัลบั้ม เคยอยู่จุดที่สูงที่สุดและต่ำที่สุดมาแล้ว จุดสูงที่สุดของทาทาคือ อัลบั้มชุดแรก ตอนนั้นเศรษฐกิจดี ไม่มีเทปผี คนต้อนรับทาทาดี มีคนรู้จักทาทาเยอะ มีคอนเสิร์ตเล่นหลายรอบ ส่วนจุดที่ต่ำที่สุดของทาทา น่าจะเป็นช่วงที่เทปผีระบาด ทาทาหายไป มีศิลปินคนอื่นมาแทน คนฟังก็ลืมๆทาทาไปบ้าง แต่ทาทาไม่คิดมาก เพราะเป็นธรรมดาของวงการนี้ ทาทาบอกกับตัวเองว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่าง แต่ทาทาต้องอยู่ให้ได้ ทาทาว่าคนเราจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดก็ตอนที่อยู่จุดต่ำสุดนี่แหละ
อยู่จุดสูงสุดเวลาเจอเรื่องดีๆใครๆก็รับได้ หรือเจอเรื่องไม่ดีก็ยังรับได้ แต่จุดต่ำสุดนี่สิ ถ้าเรามีสติ เราจะเรียนรู้ได้ ทาทามีสติและคนรอบข้างทาทาก็ดีด้วย ทำให่ทาทารู้ว่าบางเรื่องต้องปล่อยวาง เราไปบังคับอะไรบางอย่างไม่ได้ โดยเฉพาะเราเป็นคนของประชาชนไปแล้ว ทาทาบอกกับตัวเองว่า ต้องอยู่ ต้องสู้ และปล่อยวางกับคนหรือคำพูดที่มันบั่นทอนจิตใจ
ทาทาโชคดีที่ที่มีครอบครัวที่อบอุ่น มีแฟนเพลงกลุ่มหนึ่งที่ให้กำลังใจ บางครั้งทาทาเจอคนที่เข้ามาว่าเรา หรืออ่านอะไรที่ให้ร้ายเรา 10 คนนะ แต่มาเจอคนที่ให้กำลังใจเราคนเดียว ทาทาอยู่ได้แล้ว เราไม่ควรเก็บเอาคำพูดที่เราไม่สบายใจมาคิด สู้เอาคำพูดดีๆมาเป็นกำลังใจดีกว่า
คิดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คนเปลี่ยนทัศนคติมาชอบเราได้
ทาทาคิดว่าเป็นเพราะความเสมอต้นเสมอปลายของทาทานะ คือชุดแรกเป็นยังไง ตอนนี้ก็เป็นอย่างนั้น บางคนเห็นตรงนี้ แล้วเปิดใจ ยอมรับเรา ทาทาเป็นเด็กที่ทำงานตั้งแต่อายุ 14 ช่วงเวลาวัยเด็กของทาทาจะไม่เหมือนเด็กคนอื่น ในช่วงนั้นก็จะมีทั้งคนเข้าใจและเห็นใจ ทำให้ทาทาอยากอยู่ในวงการ ในทางกลับกันก็มีคนที่ไม่เข้าใจ ไม่เห็นใจเลยเหมือนกัน กลุ่มนี้เค้าจะมองข้ามไปว่า ทาทาไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นนะ เพราะฉะนั้นทาทาต้องใช้เวลาเรียนรู้มากกว่า พอทาทาโตขึ้นมาก็เริ่มเรียนรู้ คนอื่นก็เริ่มมองเห็นว่า ทาทาเริ่มเรียนรู้แล้วนะ แต่สิ่งท่ทาทาไม่เปลี่ยนเลบ คือ ทาทายังเป็นคนพูดตรงๆ ยังแสดงความคิดเห็น เพราะทาทาไม่มีอะไรที่จะปิดบัง และความคิดเห็นของทาทาก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน
เคยท้อไหม ทำยังไง
เคยค่ะ ตอนนั้น ทาทาท้อมากกับวงการ กับข่าว ก็ถามคุณพ่อว่า เรามีเงินพอไหม ทาทาอยากไปเรียน chef คนภายนอกจะคิดว่าทาทามีเงินเยอะ แต่จริงๆทาทาไม่ได้ทำงานตั้งหลายปี มีบริษัทเป็นของตัวเองด้วย ยังต้องจ่ายเงินเดือนพนักงานอยู่ ค่าบ้านใหม่ของทาทาก็ต้องจ่าย ไหนจะค่าเรียนทาง internet อีก เลยถามคุณพ่อว่า ถ้าไม่ได้ทำงานตรงนี้ เรามีเงินพอไหม ค่าเรียน chef แพงมาก คุณพ่อเตือนสติเราว่า ทาทาจะออกจากวงการนี้จริงหรือ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีพรสวรรค์ ขึ้นเวทีร้องเพลงแล้วมีคนฟัง ไม่ใช่ทุกคนที่ได้เข้าห้องอัดผลิตผลงานมาได้แบบนี้ ทาทาเคยคิดว่าไม่เอาแล้ว หนีไปอยู่เมืองนอกดีกว่า แต่คุณพ่อจะสอนทาทาไม่ให้หนี ให้สู้ต่อไป
การที่เป็นคนตรง มีผลกระทบอะไรในชีวิตไหม
โดยส่วนตัวแล้วไม่มีค่ะ เพราะคนรอบๆตัวทาทาจะเข้าใจความที่ทาทาเป็นคนเปิดเผย จริงใจ ทาทาจะแสดงความรักให้กับคนรอบข้าง กับเพื่อน กับคนรักอย่างเต็มที่ ทาทารักใครแล้ว รักจริง ทุ่มเท แต่ถ้าเกิดทาทาผิดหวัง ทาทาก็ไม่เสียดาย เพราะถือว่า วันที่เราอยู่กับเค้า เราทำดีที่สุดแล้ว
ฝากถึงแฟนเพลง
อยากให้ลองฟังดู และติเข้ามา เพราะทาทายังไม่เก่ง ชุดนี้ทาทาตั้งใจทำมาก อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้ทาทาด้วยค่ะ อัลบั้มของทาทาจะวางแผงวันที่ 8 สค.นี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ